ตราด สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “กราด” ที่เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ใช้ทำไม้กวาด ต้นไม้ชนิดนี้มีขึ้นอยู่รอบเมืองตราด ซึ่งในสมัยนั้นมีต้นกราดอยู่เป็นจำนวนมาก แต่พอถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมืองตราดมีชื่อในขณะนั้นว่า “บ้านบางพระ” จังหวัดตราด หรือเมืองทุ่งใหญ่ปรากฏชื่อในทำเนียบหัวเมืองสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2178) ว่าเป็นหัวเมืองชายทะเล สังกัดฝ่ายการต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านการคลัง ตราดเป็นหนึ่งในเมืองท่าชายทะเล ที่มีชัยภูมิเหมาะกับการแวะจอดเรือ เพื่อขนถ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เติมเสบียงอาหาร น้ำจืดบริเวณอ่าวเมืองตราด จึงเป็นแหล่งที่ตั้งชุมชนพ่อค้าชาวจีนที่เดินทางเข้ามาค้าขาย
“เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา”
ตราด นับเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงปลายอยุธยา สินค้าที่ส่งออกขายยังแดนไกล โดยเฉพาะของป่า เช่น เขากวาง หนังสัตว์ ไม้หอม และเครื่องเทศต่างๆ ล้วนมาจากเขตป่าเขาชายฝั่งทะเลตะวันออก แถบระยอง จันทบุรี ตราด โดยลำเลียงสินค้าผ่านมาตามแม่น้ำเขาสมิง ออกสู่ปากอ่าวตราด
เมื่อครั้งสงครามกู้เอกราชสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกตราดเป็นเมืองหน้าด่านกันชน ทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารก่อนเคลื่อนกองทัพเรือออกจากจันทบุรี
ในสมัยรัชกาลที่ 1 เมืองตราดยังเป็นเมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับในสมัยอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 3 ไทยทำศึกกับเจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันท์ ซึ่งต่อมาหันไปสวามิภักดิ์กับญวน ไทยกับญวนผิดใจกันจนต้องทำสงครามกันในปี พ.ศ. 2371 ตราดเป็นแหล่งกำลังพล และเสบียงอาหารมีการตั้งป้อมค่ายอยู่ที่บ้านแหลมหิน ปากอ่าวเมืองตราด
สมัยรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสได้ส่งกองทัพเรือเข้ายึดจันทบุรี ปี ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) และคืน ให้ไทยในปี พ.ศ. 2447 โดยแลกกับเมืองตราดตั้งแต่แหลมสิงห์ไปจนถึงเกาะกูด รวมทั้งเมืองปัจจันตคีรีเขตร (เกาะกง) ต่อมารัฐบาลไทยเห็นว่าตราดมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และพลเมืองส่วนใหญ่เป็นคนไทย ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝรั่งเศสจึงยินยอมทำสัญญายกเมืองตราดกับเมืองด่านซ้ายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง (เมื่อหันหน้าไปทางปากแม่น้ำ) คืนให้กับไทยโดยแลกเปลี่ยนกับพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 โดยฝ่ายไทยมีพระยามหาอำมาตยาธิบดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นพระยาศรีเทพ ตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าผู้แทนรัฐบาลไทย ฝ่ายฝรั่งเศสมีเมอซิเออร์รูซโซ เรซิดังเป็นหัวหน้าผู้แทนรัฐบาลฝรั่งเศสได้กระทำพิธีส่ง และรับมอบกัน ณ ศาลากลางจังหวัด และฝรั่งเศสยอมถอนทหารออกไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2450
ในช่วงสงครามอินโดจีน (พ.ศ. 2483 – 2484) ฝรั่งเศสพยายามเข้ายึดเมืองตราดอีกเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 กองทัพเรือไทยได้เข้า ต่อสู้ขัดขวางกองทัพเรือฝรั่งเศสที่ล่วงล้ำน่านน้ำไทยอย่างกล้าหาญ รักษาเมืองยุทธศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ได้ ปี พ.ศ. 2521 เกิดสงครามสู้รบในกัมพูชา ชาวเขมรนับแสนหนีตายทะลักเข้ามาในเขตไทยทางเทือกเขาบรรทัด เขตพรมแดนด้านตะวันออก เส้นทางหลวงหมายเลข 318 จากตัวเมืองตราดเลียบขนานเทือกเขาบรรทัดและชายฝั่งทะเลสู่ อำเภอคลองใหญ่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สายสำคัญ
เมื่อสงครามสงบลงในปี พ.ศ. 2529 เส้นทางสายนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นเส้นทางการค้าระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณตลาดหาดเล็ก สุดเขตชายแดนไทย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางต่อไปยังเกาะกง การขุดพบ “พลอยแดง” หรือ “ทับทิมสยาม” ในเขตอำเภอบ่อไร่เมือปี พ.ศ. 2514 ก่อกระแสการตื่นพลอย ผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาแสวงโชคที่นี่ความเจริญทุกด้านมุ่งสู่บ่อไร่จนกลายเป็นเมืองใหญ่คู่กับตัวเมืองตราด พื้นที่ที่เคยเป็นป่าทึบกลายเป็นหลุมบ่อ เมื่อทรัพย์สินในดินเริ่มหมดไป ในปี พ.ศ. 2534 บ่อไร่กลายเป็นเมืองร้าง เหลือไว้เพียงอาคารร้านค้าซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ
จังหวัดตราด อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 315 กิโลเมตร มีพื้นทีประมาณ 2,819 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกของประเทศไทยแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอเกาะกูด และอำเภอเกาะช้าง
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดจันทบุรี และ ราชอาณาจักรกัมพูชา
- ทิศใต้ ติดต่อกับอ่าวไทย
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา มีทิวเขาบรรทัดเป็นเส้นกั้นเขตแดน
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดจันทบุรี มีแม่น้ำเวฬุเป็นเส้นกั้นเขตแดน
การเดินทาง
รถยนต์
จากกรุงเทพมหานคร สามารถใช้เส้นทางได้ 3 สาย คือ
- บางนา-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 3) ผ่านชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
- บางนา-ชลบุรี-แกลง-จันทบุรี-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 344) ระยะทางประมาณ 318 กิโลเมตร
- ทางหลวงพิเศษ (motor way) เริ่มที่แยกถนนศรีนครินทร์ ตัดถนนรามคำแหง และมาออกที่เส้นทางบ้านบึง-แกลง-จันทบุรี-ตราด
รถโดยสารประจำทาง
รถโดยสารปรับอากาศ
มีรถปรับอากาศ ชั้น 1 (ปอ.1) ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ ได้แก่
- บริษัท เชิดชัย ทัวร์ โทร. 0 2391 2237, 0 2391 4164 สาขาตราด โทร. 0 3951 1062
- โชคอนุกูล ทัวร์ โทร.0 2392 7180 สาขาตราด โทร. 0 3951 1587
- ศุภรัตน์ ทัวร์ บริการรถ V.I.P. โทร. 0 2391 2331 สาขาตราด โทร. 0 3951 1481
รถโดยสารธรรมดา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์สถานีขนส่งเอกมัย โทร. 0 2391 2504 , 0 2391 4164
จาก สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 มีบริการรถปรับอากาศชั้น 1 ไปจังหวัดตราดทุกวัน (วิ่งเส้นมอเตอร์เวย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร.
0 2537 8055, 0 2936 2852-6 นอกจากนั้นยังมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ ได้แก่
- บริษัท ศุภรัตน์ ทัวร์ โทร. 0 2936 3388 สาขาตราด โทร. 0 3951 1481
- บริษัท เชิดชัย ทัวร์ โทร. 0 2936 0199 สาขาตราด โทร. 0 3951 1062
เครื่องบิน
บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-ตราด (อยู่ในเขตอำเภอเขาสมิง) ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ สอบถาม
เพิ่มเติม โทร. 0 2265 5555, 0 2265 5178 สำนักงานตราด โทร. 0 3952 5767-8, 0 3952 5299 www.bangkokair.com (มีบริการรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปท่าเรือเฟอร์รี่ ที่จะข้ามไปเกาะช้าง)
เที่ยวบินจังหวัดตราด
The cheapest round-trip tickets from กรุงเทพ to ตราด
Departure at | Return at | Stops | Airline | Find tickets |
---|---|---|---|---|
6 ตุลาคม 2025 | 16 ตุลาคม 2025 | Direct | Tickets from 3 552 |
การเดินทางไปจังหวัดใกล้เคียง
- ตราด-จันทบุรี จากหน้าตลาดในตัวเมืองมีรถโดยสารประจำทางวิ่งบริการไปจังหวัดจันทบุรีทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 15:30 น. ออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 40 บาท
- นอกจากนั้นยังมีรถแท็กซี่วิ่งไป-กลับจันทบุรี-ตราดทุกวัน โดยมีรถออกจากจันทบุรีบริเวณวงเวียนน้ำพุ และออกจากตราดข้างโรงแรมเมืองตราด ตั้งแต่ เวลา 06:00 – 17:00 น. ใช้เวลาในเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสารคนละ 60 บาท (5-6 คน/1 คัน)
- บ่อไร่-จันทบุรี เวลา 08:00 – 17:00 น. ออกทุกครึ่งชั่วโมง เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท
- บ่อไร่-แม่สอด จังหวัดตาก มีรถสองเที่ยว เวลา 07:30 น. และ 08:30 น.ใช้เวลาเดินทาง 15 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 200 บาท
การเดินทางภายในจังหวัด
- ตราด-คลองใหญ่ (รถสองแถว) ระยะทาง 75 กิโลเมตร รถออกจากหลังตลาดเทศบาล ตั้งแต่เวลา 06:00 – 18:00 น. ค่าโดยสารคนละ 80 บาท
(จากคลองใหญ่ต่อรถไปบ้านหาดเล็ก 20 บาท) - ตราด-บ้านหาดเล็ก (รถตู้) ระยะทาง 90 กิโลเมตร รถออกจากหน้าโรงหนังสีตราดดราม่า ตั้งแต่เวลา 06:00 – 18:00 น. ค่าโดยสารคนละ 110
บาท - ตราด-แหลมงอบ (รถสองแถว) ระยะทาง 30 กิโลเมตร รถออกจากตลาดสดเทศบาลเมืองตราด ตั้งแต่เวลา 06:00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
- ตราด-แหลมศอก (รถสองแถว) ระยะทาง 28 กิโลเมตร รถออกจากตลาดสดเทศบาลเมืองตราด ตั้งแต่เวลา 08:00 – 13:00 น. ค่าโดยสาร
คนละ 35 บาท - ตราด-เขาสมิง-บ่อไร่ ระยะทาง 53 กิโลเมตร รถออกบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองตราด ตั้งแต่เวลา 08:00 – 12:00 น. ค่าโดยสารคนละ 50
บาท - ตราด-เขาสมิง-แสนตุ้ง-ท่าจอด ระยะทาง 29 กิโลเมตร รถออกตั้งแต่เวลา 06:00-17:30 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
การเดินทางจากตัวเมืองตราดไปอำเภอต่างๆ มีรถออกจากตัวเมือง โดยจะมีรถสองแถวจอดที่บริเวณหลังตลาดเทศบาล และข้างธนาคารกรุง
ศรีอยุธยาทุกวัน และหลังจากเวลา 19:00 น. นักท่องเที่ยวจะต้องเช่าเหมาราคาแล้วแต่จะตกลงกันตามความเหมาะสม
หมายเหตุ: ราคาค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ภาพประกอบทั้งหมดจาก 12 เมืองต้องห้ามพลาด +
ระยะทางจากอำเภอเมืองไปยังอำเภอต่าง ๆ
- อำเภอเขาสมิง 16 กิโลเมตร
- อำเภอแหลมงอบ 17 กิโลเมตร
- อำเภอเกาะช้าง 27 กิโลเมตร
- อำเภอบ่อไร่ 59 กิโลเมตร
- อำเภอคลองใหญ่ 74 กิโลเมตร
- อำเภอเกาะกูด 82 กิโลเมตร
ระยะทางจากจังหวัดตราดไปจังหวัดใกล้เคียง
- จันทบุรี 70 กิโลเมตร
- ระยอง 179 กิโลเมตร
- ชลบุรี 234 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
- อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะช้างและบางส่วนของอำเภอเกาะกูด
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อไร่
- ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่
- พิพิธภัณฑ์ยุทธนาวี เกาะช้าง