ตำนานนางนาคี เป็นตำนานพื้นบ้านไทยที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน ตำนานนี้เล่าถึงนางนาคี ซึ่งเป็นงูยักษ์ที่มีรูปร่างสวยงามและจิตใจดีงาม นางนาคีอาศัยอยู่ในถ้ำใต้น้ำ มีบ่อน้ำอาบอยู่ตรงหน้าถ้ำ บ่อน้ำนี้มีน้ำใสสะอาดและเย็นฉ่ำ ผู้คนต่างพากันมาอาบน้ำในบ่อน้ำแห่งนี้เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
วันหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ “พระทอง” เดินทางมายังถ้ำใต้น้ำแห่งนี้เพื่ออาบน้ำรักษาโรค เขาเห็นนางนาคีกำลังอาบน้ำอยู่ในบ่อน้ำ จึงเกิดความประทับใจในความงามของนางนาคีและตกหลุมรักนางทันที
นางนาคีเองก็รู้สึกดีกับพระทองเช่นกัน แต่เธอรู้ว่าเธอเป็นงูยักษ์และพระทองเป็นมนุษย์ธรรมดา พวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ นางนาคีจึงตัดสินใจบอกความจริงกับพระทองว่าเธอเป็นงูยักษ์ พระทองตกใจกับความจริงนี้ แต่เขาก็ยังรักนางนาคีอยู่เช่นเดิม
พระทองและนางนาคีจึงตัดสินใจแต่งงานกัน ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง มีพราหมณ์คนหนึ่งมาพบเห็นนางนาคี เขาจึงรู้ว่านางนาคีเป็นงูยักษ์จึงโกรธแค้นและต้องการฆ่านางนาคี พระทองจึงต่อสู้กับพราหมณ์เพื่อช่วยนางนาคี
การต่อสู้ระหว่างพระทองกับพราหมณ์ดำเนินไปอย่างดุเดือด ในที่สุด พระทองก็พ่ายแพ้และถูกพราหมณ์สังหาร นางนาคีเสียใจมากที่พระทองต้องตาย เธอจึงสาปแช่งให้พราหมณ์ต้องตายตามพระทองไป พราหมณ์จึงถูกงูยักษ์กัดตาย
นางนาคีเสียใจมากที่พระทองต้องตาย เธอจึงตัดสินใจออกจากถ้ำใต้น้ำและขึ้นไปอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อตามหาร่างของพระทอง นางนาคีได้พบกับร่างของพระทองที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำ เธอจึงใช้หางพันร่างของพระทองเอาไว้และพาร่างของพระทองขึ้นสู่ภูเขา นางนาคีได้สร้างศาลาขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ เพื่อเป็นที่เก็บร่างของพระทอง
นางนาคีคอยเฝ้าร่างของพระทองอยู่ทุกวัน เธอหวังว่าพระทองจะฟื้นขึ้นมา แต่พระทองก็ไม่เคยฟื้นขึ้นมา นางนาคีจึงกลายเป็นงูยักษ์ที่คอยเฝ้าร่างของพระทองบนภูเขาแห่งนี้
ตำนานนางนาคีเป็นตำนานที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของนางนาคีที่มีต่อพระทอง นางนาคียอมทิ้งที่อยู่เดิมของเธอในถ้ำใต้น้ำและขึ้นไปอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อตามหาร่างของพระทอง นางนาคีเฝ้าร่างของพระทองอยู่ทุกวันด้วยความหวังว่าพระทองจะฟื้นขึ้นมา แต่พระทองก็ไม่เคยฟื้นขึ้นมา ตำนานนางนาคีจึงเป็นตำนานที่สอนให้ผู้คนรู้จักความรักที่ยิ่งใหญ่และเสียสละ
ตำนานนางนาคียังปรากฏอยู่ในวรรณกรรมไทยหลายเรื่อง เช่น วรรณคดีเรื่อง “พระอภัยมณี” และวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” ตำนานนางนาคีจึงเป็นตำนานที่ยังคงเป็นที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน