เมื่อลมหนาวพัดมาถึงในช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีแบบนี้ เชื่อว่านักเดินทางส่วนใหญ่นั้นได้เตรียมตัวปักหมุดเอาไว้ยังที่เที่ยวต่างๆ ที่เหมาะกับการไปเที่ยวรับลมหนาว เน้นสายธรรมชาติ หรือว่ากางเต้นท์กันแล้วใช่ไหมละ ถ้าหากว่าทริปหน้านี้คุณยังนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะ Traveloka ได้ลิสต์ที่เที่ยวรับลมหนาวมาให้เลือกมากถึง 30 แห่ง ที่จะเน้นเฉพาะสายธรรมชาติ หรือสามารถกางเต้นท์ได้ เอาใจนักเดินทางสายแคมป์ปิ้งทั้งหลาย
ต่ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดที่เที่ยวสายธรรมชาติ หากใครกำลังเล็งที่จะจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก หรืออยากจะจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก แนะนำให้เข้าไปกดแจ้งเตือนในแอพ Traveloka ด้วยฟีเจอร์ Flight Alerts ให้คุณไม่พลาดสักตั๋วโปรด้วยการแจ้งเตือนแบบ Real Time ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยว่าจะมีที่เที่ยวไหนบ้าง
30 ที่เที่ยวรับลมหนาว สายธรรมชาติ-กางเต็นท์
1. ดอยเสมอดาว – น่าน (Doi Samer Dao)
อยากไปกางเต้นท์นอนดูดาว แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปน่าน แล้วไปเที่ยวดอยเสมอดาวกันได้เลย จริงๆ แล้วชื่อของดอยเสมอดาวนั้นได้มาอย่างตรงตัว เพราะเมื่อขึ้นไปด้านบน คุณจะสามารถมองเห็นดาวที่พราวอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเหมาะกับการไปตั้งเต้นท์ชอบทะเลหมอก และรอดูพระอาทิตย์ขึ้น อันเป็นไฮไลท์ที่คนส่วนใหญ่เดินทางไปเพื่อรอชมทะเลหมอกในตอนเช้า ที่สำคัญคือดอยเสมอดาวอากาศดี และเปิดให้เที่ยวได้ทั้งปี
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – น่าน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Nan.BKKA.NNT
2. ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน (Pang Oung)
ยกให้ปางอุ๋งเป็นที่สุดของความสวยงาม ที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน ไม่วุ่นวาย ถ้าหากไม่ใช่ช่วงหน้าท่องเที่ยว เชื่อเลยว่าคนที่อยากเห็นวิวอ่างเก็บน้ำสวยๆ ที่ด้านหลังเป็นทิวเขา หรืออยากกางเต้นท์นอนชิลล์ๆ ตื่นเช้ามาเห็นทะเลหมอกที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ พร้อมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้มาเที่ยวปางอุ๋งแล้วคุณจะหลงรักอย่างแน่นอน ซึ่งการมาเที่ยวที่ปางอุ๋ง แล้วใครอยากนอนพักที่นี่จะมีด้วยกันสองรูปแบบคือ นอนโฮมสเตย์ หรือว่ากางเต้นท์บริเวณจุดกางเต้นท์ รับรองสายแคมป์ต้องฟิ
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – แม่ฮ่องสอน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Mae-Hong-Son.BKKA.HGN
3. ภูกระดึง – เลย (Phu Kradueng)
ที่เที่ยวสุดคลาสสิกยอดฮิตของเหล่าแคมป์ปิ้งตัวยงทั้งหลาย เพราะว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการขึ้นไปพิชิตภูกระดึง ซึ่งภูกระดึงนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดเลย มีระดับความสูง 400 – 1,200 เมตร มีความสำคัญตรงที่ได้รับการขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับ 2 ของประเทศ ใครที่ต้องการขึ้นไปด้านบนจะต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูกระดึง อาจจะใช้เวลาแตกต่างกันไป แต่จะมีจุดแวะพักเป็นบางช่วง และที่เที่ยวระหว่างทางค่อนข้างเยอะพอสมควร คนส่วนใหญ่จะไปตั้งเต้นท์ดูทะเลหมอกที่ด้านบ
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – เลย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Loei.BKKA.LOE
4. ดอยหลวงเชียงดาว (Doi Chiang Dao)
อาจจะต้องรีบกันสักหน่อย หากใครที่อยากไปเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว หรือว่าปักหมุดเอาไว้แล้ว เนื่องจากว่าไม่สามารถไปเที่ยวกันได้ทั้งปี ต้องรอให้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้ประกาศว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันได้เมื่อไหร่ แต่ปกติแล้วจะเปิดให้ขึ้นไปช่วงประมาณท้ายปี โดยระยะเวลาการจองก็อาจจะน้อย แนะนำเลยว่าหากใครอยากไปกางเต้นท์ ดูดาวที่ดอยหลวงเชียงดาว ต้องเตรียมตัวไม่ใช่แค่ทั้งร่างกาย แต่ต้องเตรียมตัวจองด้วย ความโดดเด่นก็คือความสวยงามของวิว และระยะทางที่จะขึ้นไป
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – เชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Chiang-Mai.BKKA.CNX
5. ภูลังกา – พะเยา (Phu Langka)
ภูลังกา เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสายธรรมชาติต้องปักหมุดเอาไว้เลย เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทะเลหมอก ตั้งอยู่ตำบลช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา หากใครที่อยากจะนั่งเครื่องบินไปเที่ยวภูลังกา ก็จะต้องนั่งมาลงน่าน แล้วขับรถต่อมายังพะเยาอีกที หรือใครอยากจะนั่งรถตรงไปยังพะเยาเลยก็ได้ ความพิเศษของภูลังกาจะเป็นเทือกเขาที่มีความสลับทับซ้อนกันอยู่บริเวณเทือกเขาสันปันน้ำ จะมีดอยที่เชื่อมต่อกันไป เวลาเดินจะผ่านสันดอยต่างๆ แล้วจะมองเห็นวิวสวยแบบไกลสุดลูกหูลูกตา
เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสายธรรมชาติที่ไม่อยากให้พลาด
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – น่าน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Nan.BKKA.NNT
6. เขาค้อ – เพชรบูรณ์ (Khao Kho)
อยากประหยัดเวลาการเดินทางไปเที่ยวเขาค้อ ก็สามารถเดินทางจากกรุงเทพ แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปยังพิษณุโลกได้ แล้วค่อยขับรถต่อไปยังเขาค้อ สำหรับเขาค้อ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่อยากล่าทะเลหมอก เพราะไม่ว่าคุณอยากจะกางเต้นท์ หรือว่าไปนอนรีสอร์ทที่อยู่บริเวณนั้น ตื่นเช้ามาคุณจะเห็นทะเลหมอกปะทะใบหน้าอย่างจัง ยิ่งไปช่วงปลายฝนต้นหนาว จะยิ่งฟินกับอากาศเย็นๆ จนไม่อยากกลับเลยทีเดียว อีกทั้งบริเวณเขาค้อก็มีจุดชมวิว รวมถึงที่เที่ยวมากมาย ใครอยากเก็บที่เที่ยวให้ครบ ไปเขาค้อ 3 วัน 2 คืน อาจจะไม่พอ
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – พิษณุโลก กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Phitsanulok.BKKA.PHS
7. ดอยอ่างขาง – เชียงใหม่ (Doi Ang Khang)
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ แล้วบินไปเที่ยวดอยอ่างขางกันดีกว่า สำหรับดอยอ่างขาง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดกางเต้นท์ที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเดินทางง่าย อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และไม่มีช่วงที่ปิดไม่ให้ขึ้นไปเหมือนอุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่ง โดยดอยอ่างขางได้ตั้งอยู่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณดอยอ่างขางจะเต็มไปด้วยสีเขียวของธรรมชาติ และดอกไม้นานาพันธุ์ ในช่วงสิ้นปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมความงามของดอกพญาเสือโคร่ง และยังเป็นจุดกางเต้นท์ยอดฮิ
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX
8. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – เพชรบุรี (Kaeng Krachan National Park)
อยากกางเต้นท์ใกล้ๆ กรุง ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล แค่ขับรถไปก็ถึงแล้ว แนะนำ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (Kaeng Krachan National Park)” สำหรับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตั้งอยู่ที่อำเภอ เพชรบุรี และครอบคลุมไปจนถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความสวยงาม ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดี สามารถไปเที่ยวกันได้ทั้งปี ด้านในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเองก็มีที่เที่ยวแก่งกระจานหลายแห่ง มีทั้งเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ไปจนถึงน้ำตก สภาพภูมิประเทศของแก่งกระจานเป็นป่าดิบชื้น และมีความสำคัญเนื่องจากเป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสายในประเทศไทย
9. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง – เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน (Huai Nam Dang National Park)
ใครยังไม่เคยไปเยือนอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ต้องไปโดน เพราะว่าที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมีความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ธรรมชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทั้งหลาย มีขนาดใหญ่มาก ครอบคลุมทั้งส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน วิวทิวทัศน์จะเป็นเทือกเขาที่สลับทับซ้อนกัน โดยจะมีทั้งจุดที่เป็นป่า และแม่น้ำลำธาร ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง สภาพภูมิประเทศจะเป็นแบบทุ่งสะวันนา มีอากาศดีตลอดทั้งปี ใครสนใจจะไปกางเต้นท์ได้ ก็ลุยเลย
จองตั๋วเครื่องบินไปแม่ฮ่องสอน กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Mae-Hong-Son.HGN
10. ม่อนแจ่ม – เชียงใหม่ (Mon Jam)
หากอยากได้ที่เที่ยวแนวธรรมชาติสวยๆ ที่เดินทางไม่ยาก แถมมีรีสอร์ทบริเวณนั้นให้เลือกหลากหลาย ขอแนะนำม่อนแจ่มเลย ม่อนแจ่มตั้งอยู่ในอำเภอ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจุดที่เที่ยวเชียงใหม่ที่คนเดินทางไปเที่ยวเยอะมาก เพราะไม่ต้องขึ้นเขาไกล เดินทางไม่นาน ที่สำคัญคือไปเที่ยวแบบเช้าไป เย็นกลับได้ วิวทิวทัศน์ก็สวยงาม บางช่วงจะมีดอกไม้ให้ไปถ่ายรูป มองเห็นทิวเขาสลับทับซ้อน ใครอยากเที่ยวแนวธรรมชาติแบบไม่ต้องลำบาก แนะนำม่อนแจ่มเลย
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ – กรุงเทพ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Chiang-Mai-Bangkok.CNX.BKKA
11. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม – ชัยภูมิ (Pa Hin Ngam)
ที่เที่ยวชื่อดังของจังหวัดชัยภูมิ ขอยกให้กับ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” ที่สามารถมาตั้งแคมป์กันได้ตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่ช่วงที่เป็นไฮไลท์ก็คือช่วงที่ดอกกระเจียวเบ่งบาน เป็นสีชมพูเต็มไปหมด ซึ่งภายในหนึ่งปีดอกกระเจียวจะบานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แถมยังจะมีหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่ข้างบนยอดหญ้า สำหรับใครที่อยากไปตั้งเต้นท์ที่ป่าหินงาม แล้วอยากชมความงดงามของดอกกระเจียว จะเบ่งบานช่วงฤดูฝน ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี
12. ภูสอยดาว – อุตรดิตถ์ (Phu Soi Dao National Park)
อีกหนึ่งสถานที่ตั้งเต้นท์ชมดาว แนะนำให้ปักหมุดไว้ที่ “ภูสอยดาว” แล้วจะไม่เสียใจอย่างแน่นอน หลายคนอาจจะสับสนระหว่างดอยเสมอดาว กับภูสอยดาว สำหรับภูสอยดาว ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ครอบคลุมไปจนถึงพิษณุโลก ใครที่อยากไปเที่ยวภูสอยดาวแบบประหยัดเวลา ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปพิษณุโลกกันได้ มีพื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,102 เมตร และมีความสูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ไฮไลท์ของภูสอยดาว คือทุ่งดอกหงอนนาค ที่จะมีสีม่วงบานสะพรั่ง ภายในหนึ่งปีจะออกดอกช่วง สิงหาคม-กันยายน เพียงเท่านั้น
13. ดอยแม่โถ – เชียงใหม่ (Doi Mae Tho)
อยากได้บรรยากาศกลางเต้นท์อยู่ท่ามกลางทุ่งสะวันนา ลิสต์เอาไว้เลยสำหรับ “ดอยแม่โถ” อีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่เหมาะกับสายฮิป เพราะเพิ่งโด่งดังในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่สวยแปลกตา มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวของธรรมชาติ มีเทือกเขาทับซ้อน เกิดเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง ดอยแม่โถตั้งอยู่ในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้คุณได้ไปกางเต้นท์อยู่บริเวณดอยแม่โถ จุดเด่นคือภูมิประเทศแบบทุ่งสะวันนา ชมวิวแบบ 360 องศา ที่สำคัญคือมีอากาศเย็นสบายตลอดปี ใครไปในช่วงหน้าฝนต้นหนาว ก็จะเห็นทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เป็นอีกหนึ่งที่ๆ แนะนำสำหรับสายกางเต้นท์เลย
14. สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน – เชียงใหม่ (Pa Kia)
ที่บริเวณเชียงดาวก็มีอีกหนึ่งจุดกางเต้นท์ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากมายนัก นั่นก็คือ “สันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน” ตั้งอยู่บนสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ บริเวณเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อันที่จริงแล้วเป็นหน่วยงานเกษตรศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุดเด่นของสันป่าเกี๊ยะคือสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน ตอนกลางคืนจะสามารถมองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว ให้ความโรแมนติกอย่างเป็นที่สุด ด้านบนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวมากางเต้นท์บริเวณนี้ได้ ในตอนเช้าตื่นมาจะเห็นทะเลหมอกเบาๆ
15. ภูชี้ดาว – เชียงราย (Phu Chi Dao)
จะลืมที่เที่ยวแห่งนี้ไปไม่ได้เลย ถ้าเอ่ยถึงที่เที่ยวธรรมชาติ เหมาะกับการไปกางเต้นท์ ก็คือ “ภูชี้ดาว” จังหวัดเชียงราย หนึ่งในภูที่กล่าวขานกันถึงความงดงาม และธรรมชาติที่ยังเขียวขจี อีกทั้งยังเป็นจุดเช็คอินชมทะเลหมอกสุดปัง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร อยู่สูงขึ้นไปกว่าภูชี้ฟ้า และดอยผาตั้ง เพราะเช่นนั้นไม่ต้องห่วงเลยเรื่องความงดงามของวิว คุณจะได้มองเห็นพาโนราม่าแบบ 360 องศากันอย่างแน่นอน แถมบริเวณภูชี้ดาวยังขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่ยังมีความสมบูรณ์ ใครไปเชียงรายตั้งพิกัดไว้ที่นี่เลย
จองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ – เชียงราย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Chiang-Rai.BKKA.CE
16. อุทยานแห่งชาติภูเรือ – เลย (Phu Ruea National Park)
จองตั๋วเครื่องบินไปเลย แล้วไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูเรือกันดีกว่า สำหรับอุทยานแห่งชาตินี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวเลยสายธรรมชาติ ที่อยากให้ลองไป เพราะว่าบรรยากาศดี ภูเรือจะมีลักษณะเป็นภูเขาสูง พร้อมกับที่ราบกว้างๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องบรรยากาศและความสวยงาม เพราะว่าสวยงามอย่างแน่นอน บริเวณด้านในภูเรือก็จะเต็มไปด้วยที่เที่ยวมากมาย ทั้งน้ำตก และที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ บรรยากาศก็ดีหนาวเย็นตลอดปี ถ้าใครมาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว อาจจะเจอ “แม่คะนิ้ง” ได้
17. จุดชมวิวเขาศูนย์ – นครศรีธรรมราช (Khao Soon view point)
ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็มีทะเลหมอกนะ เพื่อใครยังไม่รู้ ที่นั่นก็คือ “จุดชมวิวเขาศูนย์” ที่สามารถไปตั้งเต้นท์ชมวิวสวยๆ กันได้ โดยเขาศูนย์นี้ จะตั้งอยู่ที่อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยอดเขาศูนย์มีความสูงประมาณ 150 เมตร บริเวณนั้นจะมีลานกางเต้นท์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกางเต้นท์ มาตื่นเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกกันได้ ใครที่อยากจะประหยัดเวลา ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปนครศรีธรรมราช และขับรถต่อไปเที่ยวที่เขาศูนย์กันได้
จองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ – นครศรีธรรมราช กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Nakhon-Si-Thammarat.BKKA.NST
18. อุทยานแห่งชาติแม่เมย – ตาก (Mae Moei National Park)
สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวตาก บอกเลยว่าต้องลองไปเที่ยวตากกันดูสักครั้ง กับ “อุทยานแห่งชาติแม่เมย” ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งอุทยานแห่งชาติแห่งนี้จะโด่งดังในเรื่องของทะเลหมอกที่สวยงาม คนส่วนมากเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย เพื่อที่จะมากางเต้นท์แล้วชมทะเลหมอก โดยวิวทิวทัศน์จะเป็นวิวเขาที่สลับทับซ้อนกันไป บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ เพราะมีแต่ธรรมชาติที่อุมสมบูรณ์ หรือถ้าใครไม่อยากกางเต้นท์ ด้านในจะมีบ้านพักให้บริการ
จองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ – ตาก กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Mae-Sot.BKKA.MAQ
19. ภูชี้ฟ้า – เชียงราย (Phu Chi Fa)
อยากให้มาล่าทะเลหมอกกันอีกหนึ่งที่ ก็คือ “ภูชี้ฟ้า” จังหวัดเชียงราย เป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว ที่อยากเที่ยวธรรมชาติในช่วงลมหนาวพัดมา ไม่ใช่แค่อากาศที่เย็นสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และเป็นสถานที่ชมทะเลหมอกที่น่าสนใจมาก สำหรับใครที่อยากไปให้ทันพระอาทิตย์แสงแรก จะต้องขึ้นไปยอดภูชี้ฟ้าตั้งแต่ฟ้ายังมืด มีลักษณะของปลายผาแหลมชี้ไปทางฝั่งประเทศลาว นอกเหนือจากทะเลหมอกสวยๆ คุณยังได้มองเห็นวิวพาโนราม่า 360 ของธรรมชาติ และวิวของฝั่งเพื่อนบ้านเราอีกด้วย
จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงราย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Rai.CEI
20. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า – พิษณุโลก (Phu Hin Rong Kla)
ใครยังไม่เคยไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แนะนำให้ลองไปสักทีแล้วจะติดใจ เพราะว่าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าสวยงามไม่ต่างจากอุทยานแห่งชาติอื่นๆ เลย อันที่จริงมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเลย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปพิษณุโลก หรือว่าจองตั๋วเครื่องบินไปเลยก็ได้ บรรยากาศก็เย็นสบายตลอดปี ด้านในจะมีทั้งลานหินปุ่ม สุสานนักรบ และผาชูธง เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเคยมีประวัติศาสตร์ในเรื่องของการสู้รบของลัทธิคอมมิวนิสต์ หากอยากได้จุดชมวิวสวยๆ แบบมองเห็นวิวพาโนราม่า แนะนำให้ไปที่ลานหินปุ่ม อันเป็นแลนด์มาร์คของภูหินร่องกล้านี้
21. ม่อนเคียงดาว – น่าน (Mon Keang Dao)
ไปดูดาวสวยๆ กันที่ “ม่อนเคียงดาว” กันดีกว่า เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแนะนำสำหรับใครที่กำลังเล็งไว้ว่าจะไปเที่ยวน่าน แล้วอยากไปนอนเต้นท์ หรือที่พักแถวนั้นเพื่อดูดาวสวยๆ ที่ม่อนเคียงดาวนี้จะอยู่ใกล้กับดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย และไม่อยากขึ้นไปด้านบนดอยเสมอดาว ก็สามารถแวะมาพัก นอนชมดาวสวยๆ ได้ที่ม่อนเคียงดาวนี้ ข้อดีคือจะมีที่พักม่อนเคียงดาวให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
22. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ – เชียงใหม่ (Mae Pan view point)
แม้ว่าจะไปกางเต้นท์ที่บริเวณกิ่วแม่ปานไม่ได้ แต่อยากให้ลิสต์เอาไว้เป็นหนึ่งจุดเช็คพอยท์ที่อยากให้มาเยือน หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวดอยอินทนนท์ อย่าลืมแวะเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่กิ่วแม่ปาน เพราะว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยอลังการ มองเห็นวิวได้แบบไม่มีอะไรกั้น ด้วยการเดินนำของไกด์ท้องถิ่น ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเดินศึกษาธรรมชาติเส้นทางไหน แต่ทว่าการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ อาจจะต้องเช็คช่วงที่เปิดให้เข้าชมอีกครั้ง เพราะในแต่ละปีจะเปิดแค่ช่วงหนึ่ง ไม่ได้ให้เดินทางมาเที่ยวตลอดทั้งปี
23. เขาช้างเผือก – กาญจนบุรี (Khao Chang Phueak)
เชื่อว่าเป็นหนึ่งในลิสต์ที่นักเดินทางสายแอดเวนเจอร์ทุกคน อยากจะไปพิชิตสักครั้งในชีวิตอย่างแน่นอน กับเขาช้างเผือก ที่เปิดให้ไปพิชิตกันแค่บางช่วงเท่านั้น แถมยังจำกัดจำนวนคนที่จะขึ้นไปยังด้านบนอีกด้วย โดยเขาช้างเผือกจะมีความสูงประมาณ 1,249 จากระดับน้ำทะเล สามารถเดินไต่สามสันเขาไปเรื่อยๆ เพื่อชมความงามด้านบนแบบที่ไม่มีอะไรขวางกั้น สำหรับช่วงเวลาที่เปิดให้ไปเที่ยวที่เขาช้างเผือก จะอยู่ที่ช่วงประมาณเดือนตุลาคม ไปจนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ใครที่อยากจะขึ้นไปพิชิตเขาช้างเผือกอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม แล้วรีบไปจองกันสักหน่อย
24. โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ – กำแพงเพชร (Khao Mokoju)
สายเดินป่า และรักธรรมชาติจะต้องถูกใจที่เที่ยวนี้อย่างแน่นอน กับ “เขาโมโกจู” ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ที่ครอบคลุมทั้งพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และนครสวรรค์ มีความสูงประมาณ 1,964 เมตร การจะพิชิตยอดเขาโมโกจูนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เดินทางจะต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะฝ่าฟันเส้นทางที่ยากลำบากไปยังด้านบน เพื่อชมวิวสวยๆ ที่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากอย่างแน่นอน สำหรับระยะเวลาที่จะขึ้นไปพิชิตยอดเขาด้านบน หรือเวลาที่จะต้องใช้เดินป่า จะอยู่ที่ประมาณ 4 วัน 3 คืน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
25. ดอยหลวงตาก – ตาก (Phu Khao Luang)
เอาใจคนที่ชอบเดินป่ากันบ้าง กับเส้นทางเดินป่าที่ “ดอยหลวงตาก” ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย โดยเส้นทางที่จะต้องเดินทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 11 กิโลเมตร จะต้องใช้การเดินเท้า และมีเจ้าหน้าที่ รวมถึงลูกหาบร่วมเดินทางไปด้วยกัน สำหรับอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมไป แน่นอนว่าจะต้องมีเต้นท์ และถุงนอน รวมถึงเสื้อกันฝน และน้ำดื่ม เพราะบริเวณด้านบนที่จะต้องเดินขึ้นไปนั้น จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย โดยการเดินขึ้นไปต้องอาศัยเจ้าหน้าที่เท่านั้น
จองตั๋วเครื่องบินไปตาก กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Mae-Sot.MAQ
26. ทุ่งแสลงหลวง – พิษณุโลก (Thung Salaeng Luang National Park)
สนใจอยากกางเต้นท์ชมวิวทุ่งหญ้าสะวันนาสวยๆ แนะนำ “ทุ่งแสลงหลวง” โดยทุ่งแสลงหลวงนี้มีพื้นที่ใหญ่มาก ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด ทั้งพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา โดดเด่นในเรื่องของความงดงาม พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่แบบโล่งกว้าง ที่ยังคงมีความสมบูรณ์ในเรื่องของพืชพรรณ และสัตว์ป่า คนส่วนใหญ่มักจะไปกางเต้นท์ แล้วชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมด้วยทะเลหมอกในตอนเช้า เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินแนวธรรมชาติที่สวยไม่แพ้ใคร
27. ดอยผาตั้ง – เชียงราย (Doi Pha Tang)
เปิดเข้าแอพทราเวโลก้าแล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงรายกันดีกว่า สำหรับ “ดอยผาตั้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดน่าสนใจของที่เที่ยวเชียงราย โดยผาตั้งจะเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น เทือกเขานี้จะกั้นพรมแดนระหว่างไทย – ลาว เอาไว้ด้วยกัน มีความสูงประมาณ 1,800 จากระดับน้ำทะเล เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ สำหรับใครที่อยากเห็นวิวประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่นประเทศลาว ที่สำคัญถ้าหากช่วงไหนอากาศดีจะสามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่อยู่ไม่ห่างออกไปได้ด้วย
28. ดอยทูเล – ตาก (Doi Tu lay)
อาจจะชื่อฟังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่นักสำหรับ “ดอยทูเล” ที่อยู่ในจังหวัดตาก มีเส้นทางเดินป่าที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร ให้นักเดินทางได้ขึ้นไปพิชิตยอดเขาด้านบน และกางเต้นท์นอนรอชมทะเลหมอกในตอนเช้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวตาก ที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศดี วิวสวย และเป็นจุดล่าทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยอีกด้วย อีกทั้งบริเวณยอดดอยทูเลยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามสำหรับทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และยามที่พระอาทิตย์ตกดิน หากใครที่ขึ้นไปแล้วก็จะต้องกางเต้นท์ที่บริเวณจุดกางเต้นท์ แล้วค่อยเดินขึ้นไปยอดดอยเพื่อชมวิวสวยๆ
29. บ้านเนินมะปราง – พิษณุโลก (Noen Maprang)
หยุดพักผ่อนกับวิถีสโลวไลฟ์ จองตั๋วเครื่องบินไปพิษณุโลก แล้วไปเที่ยวที่บ้านเนินมะปรางกันดีกว่า เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตของจังหวัดพิษณุโลก ที่อยากให้ได้ไปสัมผัสกัน เพราะบ้านเนินมะปราง เป็นอำเภอหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยขุนเขา ทำให้มีทัศนียภาพที่ประเมินค่าไม่ได้ จนหลายคนยกให้บ้านเนินมะปรางเป็นกุ้ยหลินแห่งเมืองไทย จุดเด่นที่นอกจากวิวสวยๆ แล้วบ้านเนินมะปรางยังเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็สวย และสบายตา หากใครกำลังมองหาลานกางเต้นท์บรรยากาศดี แนะนำบ้านเนินมะปรางเลย
30. ดอยสะโง้ – เชียงราย (Doi Sa Ngo)
ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวสายธรรมชาติแห่งสุดท้าย กับ “ดอยสะโง้” หนึ่งจุดเช็คอินที่สวยงามของเชียงราย หากใครที่อยากไปนอนชมวิวสวยๆ แบบพาโนราม่า แนะนำให้ปักหมุดไว้ที่ดอยสะโง้ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จุดเด่นของดอยสะโง้นี้คือสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งของไทย ลาว และพม่า เป็นส่วนที่มองเห็นได้ทั้งสามประเทศ และยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ยามเช้า ใครสนใจอยากนอนค้าง แบบไม่ได้นอนเต้นท์ ก็เลือกที่พักดอยสะโง้ที่มีให้เลือกได้เ
อันที่จริงแล้วที่เที่ยวสายธรรมชาติทั้งหลายก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น และแตกต่างกันออกไป มีบางที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และบางที่อาจจะต้องจอง และเตรียมร่างกายให้พร้อม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาไม่แพง แนะนำเลยว่าจองตั๋วเครื่องบินผ่านทราเวลโลก้า แล้วแพลนเที่ยวล่วงหน้าได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
