ความยากจนเป็นปัญหาระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก ธนาคารโลกใช้เกณฑ์เส้นแบ่งความยากจนสากล (international poverty line) ในการวัดความยากจน โดยกำหนดให้ประชากรที่มีรายได้วันละน้อยกว่า 1.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 57 บาท) เป็นผู้ที่อยู่ในภาวะยากจน
จากข้อมูลของธนาคารโลก พบว่าในปี 2023 ยังคงมีประชากรกว่า 689 ล้านคนทั่วโลกอยู่ในภาวะยากจน โดยประเทศที่มีประชากรยากจนมากที่สุด 10 ประเทศ ได้แก่
- ไนจีเรีย (87 ล้านคน)
- อินเดีย (73 ล้านคน)
- เอธิโอเปีย (56 ล้านคน)
- บังกลาเทศ (39 ล้านคน)
- มาลาวี (29 ล้านคน)
- เคนยา (25 ล้านคน)
- ไนเจอร์ (22 ล้านคน)
- แองโกลา (21 ล้านคน)
- ยูกันดา (20 ล้านคน)
ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สาเหตุของความยากจนในภูมิภาคเหล่านี้ ได้แก่
- ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและสงคราม
- ปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม พายุเฮอริเคน
- ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
- ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้
ความยากจนส่งผลกระทบต่อผู้คนในทุกด้านของชีวิต ผู้คนที่อยู่ในภาวะยากจนมักขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด ที่อยู่อาศัย และการศึกษาที่ดี พวกเขามีความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บและความรุนแรง พวกเขาไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ
การแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นภารกิจที่ท้าทาย แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก แนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจน ได้แก่
- การส่งเสริมสันติภาพและความ stabilty
- การลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
- การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
- การลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้
- การพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน
- การส่งเสริมการศึกษาและสาธารณสุข
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความยากจน