จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า จังหวัดที่มีคนจนน้อยที่สุดในประเทศไทยในปี 2566 ได้แก่
- ภูเก็ต
- ประจวบคีรีขันธ์
- ระนอง
- ชลบุรี
- สมุทรปราการ
จังหวัดภูเก็ต
มีอัตราส่วนคนจนต่อประชากรต่ำที่สุด เพียงร้อยละ 1.8 สาเหตุหลักมาจากการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อยู่ในอันดับ 2 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดระนอง
อยู่ในอันดับ 3 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดชลบุรีและจังหวัดสมุทรปราการ
อยู่ในอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของประเทศ ทำให้มีรายได้จากภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดอื่นๆ ที่มีอัตราส่วนคนจนต่ำ ได้แก่
โดยจังหวัดเหล่านี้ล้วนเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง มีรายได้จากภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มอัตราส่วนคนจนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการลดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ