ความมั่งคั่งของประเทศสามารถวัดได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดย GDP เป็นตัวชี้วัดมูลค่าของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตขึ้นในประเทศหนึ่งๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
จากข้อมูลของธนาคารโลก พบว่าในปี 2023 10 ประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในโลก ได้แก่
- ลักเซมเบิร์ก (GDP: 65,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- สิงคโปร์ (GDP: 65,520 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (GDP: 61,660 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- นอร์เวย์ (GDP: 60,740 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- สหรัฐ (GDP: 60,660 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- ไอร์แลนด์ (GDP: 59,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- สวิตเซอร์แลนด์ (GDP: 59,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- แคนาดา (GDP: 58,960 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
- ออสเตรเลีย (GDP: 58,820 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน)
ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ สาเหตุของความมั่งคั่งของประเทศเหล่านี้ ได้แก่
- การมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
- การมีแรงงานที่มีทักษะและคุณภาพสูง
- การมีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและมั่นคง
- การมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ
ความมั่งคั่งของประเทศส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศนั้นๆ ประชาชนในประเทศที่มั่งคั่งมักมีรายได้สูง สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ ได้อย่างมีคุณภาพ พวกเขามีสุขภาพที่ดีและมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาและสาธารณสุขที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของประเทศไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาอย่างยั่งยืนต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากความมั่งคั่ง เช่น คุณภาพชีวิตของประชาชน สิ่งแวดล้อม และความเท่าเทียมทางสังคม