การออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล ช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน มีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน มีเงินเก็บไว้ลงทุนเพื่ออนาคต หรือมีเงินไว้ใช้เกษียณอายุอย่างสุขสบาย
หลายคนอาจคิดว่าการออมเป็นเรื่องยากหรือไกลตัว แต่ความจริงแล้วการออมสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีวินัยและวางแผนอย่างรอบคอบ
เริ่มต้นอย่างไร
ขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นการออมคือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการออมเงินเพื่ออะไร เช่น ออมทรัพย์เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ออมทรัพย์เพื่อซื้อบ้าน ออมทรัพย์เพื่อลงทุน เป็นต้น เมื่อเรารู้ว่าต้องการออมเงินเพื่ออะไรแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถกำหนดเป้าหมายในการออมได้
นอกจากนี้ เราควรกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละเดือนด้วย โดยอาจเริ่มต้นจากการออมเพียงเล็กน้อยก่อน เช่น 1,000 บาทต่อเดือน เมื่อเราเริ่มชินกับการออมแล้ว ก็ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนเงินที่ออมขึ้นเรื่อย ๆ
เคล็ดลับการออม
เพื่อให้การออมสำเร็จตามเป้าหมาย เราควรมีวินัยในการออม โดยอาจกำหนดวันและเวลาที่เราจะออมเงินไว้เป็นประจำ เช่น ออมทรัพย์ทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือน หรือออมทรัพย์เมื่อได้รับเงินเดือน
นอกจากนี้ เราอาจใช้วิธีออมแบบอัตโนมัติ โดยกำหนดให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของเราอัตโนมัติเมื่อได้รับเงินเดือน วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลกับการลืมออมเงิน
อีกเคล็ดลับหนึ่งในการออมเงินคือลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เช่น งดซื้อของฟุ่มเฟือย งดกินข้าวนอกบ้านบ่อย ๆ หันมาทำอาหารที่บ้านแทน หรือการหารายได้เสริมเพิ่มเติม
ประเภทการออม
การออมเงินมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการออมของแต่ละคน
- การออมแบบฝากประจำ เป็นการออมเงินกับธนาคาร โดยธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้ตามจำนวนเงินที่ฝากและระยะเวลาฝาก
- การออมแบบกองทุนรวม เป็นการออมเงินโดยซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งจะลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ เป็นต้น
- การออมแบบประกันชีวิต เป็นการออมเงินและคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกัน โดยเมื่อครบกำหนดกรมธรรม์ จะได้รับเงินก้อนหรือเงินบำนาญ
- การออมแบบการลงทุน เป็นการออมเงินโดยลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
ประโยชน์ของการออม
การออมเงินมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
- ความมั่นคงทางการเงิน ช่วยให้เรามีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน
- มีเงินเก็บไว้ลงทุน ช่วยให้มีเงินเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
- มีเงินไว้ใช้เกษียณอายุ ช่วยให้มีเงินใช้อย่างเพียงพอเมื่อเกษียณอายุ
สรุป
การออมเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยให้เรามีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขในอนาคต การเริ่มต้นการออมอาจเป็นเรื่องยาก แต่หากเรามีความตั้งใจและวินัย ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของเรา
ลองเริ่มต้นจากการออมเพียงเล็กน้อยก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนเงินที่ออมขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเท่านี้ เราก็จะสามารถออมเงินได้สำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตัวอย่างการวางแผนการออม
สมมติว่าเรามีรายได้เดือนละ 30,000 บาท และต้องการออมเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน 100,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี
- ขั้นตอนแรกคือกำหนดเป้าหมายในการออม ในกรณีนี้เราต้องการออมเงิน 100,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นเราต้องออมเงินเดือนละ 5,000 บาท
- ขั้นตอนที่สองคือกำหนดจำนวนเงินที่ออมในแต่ละเดือน โดยในกรณีนี้เรากำหนดจำนวนเงินที่ออมไว้ที่ 5,000 บาท
- ขั้นตอนที่สามคือกำหนดวันและเวลาที่เราจะออมเงิน โดยในกรณีนี้เรากำหนดให้ออมเงินทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือน
- ขั้นตอนที่สี่คือลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยในกรณีนี้เราอาจลดการกินข้าวนอกบ้านบ่อย ๆ หันมาทำอาหารที่บ้านแทน หรือหารายได้เสริมเพิ่มเติม
หากเราปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด เราก็จะสามารถออมเงิน 100,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปีได้
บทส่งท้าย
การออมเงินเป็นพื้นฐานสำคัญของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล ช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน มีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน มีเงินเก็บไว้ลงทุนเพื่ออนาคต หรือมีเงินไว้เกษียณอายุอย่างสุขสบาย