ผู้เขียนมาถึงตลาดน้ำอัมพวา เวลาประมาณบ่ายสามโมง ซึ่งในช่วงเวลานั้นตลาดน้ำก็เปิดทำการเรียบร้อย ร้านต่างๆมากมายที่ตั้งอยู่ริมน้ำก็กำลังโชว์อะไรหลายๆอย่างเพื่อที่จะบอกถึงความอร่อยของร้านตนเอง ผมเดินและกินก๋วยเตี๋ยวเรือแบบนั่งกินริมน้ำครั้งแรก อร่อยมากๆและได้บรรยากาศดีครับ
สักพักใหญ่พอตะวันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทอง เสียงวิทยุตามสายก็เปิดเพลงมนต์รักแม่กลองดังลอยมาแต่ไกล ตอนนั้น ณ เวลานั้นฟังแล้วฟินมากๆครับ คือถ้าใครได้มาฟังในช่วงที่ผู้เขียนได้กล่าวถึงจะต้องมีความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันอย่างแน่นอน ผู้เขียนเดินไปอยู่บนสะพานที่ข้ามสองฝั่งและนั่งดูตลาดอัมพวาไปเรื่อยๆ
คุณผู้อ่านเชื่อหรือไม่ คนที่มาเที่ยวนั้นไม่มีคนอายุมากๆเลย มีแต่หนุ่มสาวศิลปินทั้งหลายที่มาเที่ยวกัน จนผู้เขียนคิดว่า หรือนี่จะเป็นแหล่งจีบกันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบการเที่ยวผับเทคเป็นต้นแต่ดูแล้วก็มีความสุขดีนะครับ เห็นเขามากันเป็นคู่ทำกิจกรรมร่วมกัน
เวลาตกเข้ายามค่ำ ผู้เขียนก็จ่ายค่าเช่าเรือ เพื่อที่จะได้พายเรือไปดูหิงห้อยที่เกาะอยู่บนต้นไม้ที่สวยงาม ตอนขึ้นเรือครั้งแรกแอบเมาเรือเล็กน้อย แต่สักพักก็โอเคครับ
บรรยากาศสองข้างทางยามเย็นได้ฟิลด์มากๆ ชิลสุดๆ เรือก็ล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน และก็ไปตามต้นลำพูต่างๆ ซึ่งพอเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่เห็นคือหิงห้อยจำนวนมากที่เกาะอยู่ที่ต้นครับสวยงามมาก และน่าดูอย่างที่สุดเสียดายที่ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปไปด้วย
เรือล่องไปอย่างเอื่อยๆ ฟังเสียงน้ำกระทบข้างเรือและเสียเจื้อยแจ้วของผู้คนที่มาดูหิงห้อยเหมือนกัน ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีมากๆครับ เรือล่องอยู่สักพักประมาณ 40 นาทีก็กลับเข้าฝั่งตอนนั้นร้านรวงปิดเกือบหมดแล้วครับ ผมก็ออกมาเดินเล่นๆชิวๆ ก่อนที่จะกลับเข้าที่พัก และเตรียมเดินทางกลับในรุ่งเช้า ถือว่าคุ้มจริงๆกับการมาเยือนถิ่นอัมพวาครั้งนี้