สสารมืดเป็นวัสดุตามทฤษฎีที่ไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจจับได้โดยตรง แต่สามารถอนุมานการมีอยู่ได้จากการสังเกตผลกระทบต่อสิ่งอื่น ๆ ในอวกาศ ตัวอย่างเช่น การสั่นสะเทือนของดาราจักรและกลุ่มดาวฤกษ์ แรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดดาราจักรเข้าหากัน และการก่อตัวโครงสร้างขนาดใหญ่ในจักรวาล
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสสารมืดคิดเป็นประมาณ 85% ของมวลทั้งหมดในจักรวาล ที่เหลืออีก 15% เป็นมวลธรรมดาที่เรารู้จัก เช่น ดาว กาแล็กซี และแก๊ส
การค้นพบสสารมืดครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1930 เมื่อนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน เอ็ดวิน ฮับเบิล สังเกตว่าดาราจักรกำลังเคลื่อนที่ออกจากกันอย่างรวดเร็ว ความเร็วในการเคลื่อนที่นี้ขัดแย้งกับทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของไอแซก นิวตัน ซึ่งระบุว่าดาราจักรควรดึงดูดซึ่งกันและกันช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป
ในปี 1933 เจมส์ ฟรินด์ นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันเสนอว่าสสารมืดอาจเป็นคำอธิบายสำหรับปัญหานี้ สสารมืดที่ไม่มีแสงนี้สามารถให้แรงโน้มถ่วงที่จำเป็นในการดึงดูดดาราจักรเข้าหากัน
ตั้งแต่นั้นมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานเพิ่มเติมมากมายที่สนับสนุนการมีอยู่ของสสารมืด ตัวอย่างเช่น การศึกษาโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาลแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างเหล่านี้ไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้หากไม่มีสสารมืด
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของสสารมืดยังคงเป็นปริศนา นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสสารมืดทำมาจากอะไร หรือมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับสสารมืด หนึ่งในทฤษฎีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือสสารมืดประกอบด้วยอนุภาคที่เรียกว่า “IMPs” (Weakly Interacting Massive Particles) อนุภาคเหล่านี้มีมวลมากกว่าอิเล็กตรอนเล็กน้อย แต่มีปฏิสัมพันธ์กับสสารธรรมดาเพียงเล็กน้อย
ทฤษฎีอื่น ๆ เสนอว่าสสารมืดอาจประกอบด้วยอนุภาคที่แปลกใหม่กว่า เช่น อนุภาค “แอ็กซีออน” (Axions) หรือ “สสารมืดแบบควอนตัม” (Quantum Dark Matter)
การค้นหาสสารมืดเป็นเป้าหมายหลักของนักดาราศาสตร์ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังใช้กล้องโทรทรรศน์และเครื่องมือตรวจจับอื่นๆ เพื่อค้นหาหลักฐานของสสารมืด
หากนักวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบสสารมืดได้ พวกเขาก็จะเข้าใจจักรวาลของเราได้ดีขึ้นมาก