หากคุณต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวใน กรุงเทพมหานคร เพื่อการพักผ่อน แต่เงินในบัญชีของคุณกลับไม่ค่อยเป็นใจ ไม่ต้องกังวลไป! ยังคงมีกิจกรรมเจ๋ง ๆ อีกมากมายที่ยังรอให้คุณไปสัมผัสในเมืองหลวงแห่งนี้ โดยไม่จำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินก้อนโตเสมอไป และเหล่านี้คือกิจกรรมสนุกสุดชีคแบบไม่เสียตังค์ที่คุณก็ฟินได้ ณ ที่นี่ กรุงเทพมหานคร!
1. สนุกและเพลินเพลินไปกับการชมการแข่งขันชกมวยไทย ณ ศูนย์การค้า MBK ช้อปปิ้งเซนเตอร์
ทุกคืนวันพุธ ศูนย์การค้า MBK ช้อปปิ้งเซนเตอร์จะเป็นสถานที่ที่ใช้จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในช่วงกลางคืน หรือ MBK Fight Night ที่ซึ่งนักมวยไทยจากทั่วทุกมุมโลกจะเดินทางมาเพื่อประลองฝีมือในการชกมวยไทยของแต่ละคนบนเวทีมวยกลางแจ้ง ด้านหน้าทางเข้าศูนย์การค้าและเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมและเชียร์ร่วมกันได้ ด้วยบรรยากาศของการต่อสู้ เสียงพากย์ของนักพากย์มวยและนักวิจารณ์การชกมืออาชีพ พริตตี้สาวถือป้ายบนเวทีมวย แสงและสีบนเวที จะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังชมการแข่งขันชกมวยในสังเวียนจริงๆ แต่คุณกลับไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาโอกาสในการชมวิถีการต่อสู้ตามแบบฉบับมวยไทยขนานแท้ MBK Fight Night เป็นหนึ่งในคำตอบสุดท้ายที่คุณสามารถเติมเต็มประสบการณ์อันน่าทึ่งให้กับการเดินทางของคุณได้
วิธีการเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ
2. ทดสอบความกล้าและสัมผัสประสบการณ์หลอนบนตึกร้าง Sathorn Unique Ghost Tower
สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์หลอน น่าขนลุก การเดินทางไปเยือนตึกร้าง Sathorn Unique Ghost Tower น่าจะเป็นหนึ่งในจุดหมายของคุณที่คุณสามารถสัมผัสได้ ด้วยความที่ตึกแห่งนี้เป็น ตึกระฟ้าตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลาหลายปี และเมื่อมีผู้กล้าลองเข้าไปสำรวจภายในตึก หลายต่อหลายคนต่างบอกต่อๆกันมาจนเป็นที่เลื่องลือถึงบรรยากาศอันวังเวง น่าขนลุกบนตึกร้างแห่งนี้ด้วยข่าวลือที่ว่ากันว่า ตึกแห่งนี้ถูกสร้างบนพื้นที่ที่เคยเป็นสุสานมาก่อน และเคยมีเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวชาวสวีเดนคนหนึ่ง ขึ้นมาฆ่าตัวตายบนตึกแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2557 และวิญญาณของนักท่องเที่ยวคนนั้น ก็ยังคงวนเวียนอยู่บนชั้นที่ 43 ของตึกแห่งนี้
แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน ทางราชการได้ทำการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามสำหรับคนทั่วไปแล้ว แม้ว่าเราอาจจะยังสามารถเข้าไปในพื้นที่ของตึกร้างได้ด้วยวิธีพิเศษอื่นๆ แต่ทางที่ดี การชมตึกร้างจากระยะที่ปลอดภัยจะเป็นการดีที่สุด ไม่คุ้มค่าเลยหากคุณฝ่าฝืนเข้าไปในพื้นที่ตึกร้างและต้องคอยหลบผู้ดูแลตึกหรือวิ่งหนีอย่างแตกตื่นจากสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายได้ ก็เป็นได้!!!
วิธีการเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสะพานตากสิน
3. อิงแอบบรรยากาศอันร่มรื่น เป็นธรรมชาติ ที่สวนลุมพินี
สวนสาธารณะที่ได้ชื่อมาจากสถานที่อันเป็นที่ประสูติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในประเทศเนปาล สวนลุมพินี เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อน เพื่อหลีกหนีจากความสับสนวุ่นวาย และวิถีชีวิตที่เร่งรีบของผู้คนในเมือง กับบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานรอบๆแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ทิวทัศน์ดูร่มรื่น สวยงาม ผู้คนทั่วไปนิยมไปทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อการผักผ่อนหย่อนคลายในสวนสาธารณะแห่งนี้ ยกตัวอย่าง เช่น การทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ การไปปิกนิก วิ่งจ๊อกกิ้ง เดินออกกำลังกายท่ามกลางความเงียบสงบของบรรยากาศรอบด้าน หรือหากคุณต้องการออกแรงอีกซักนิด การเข้าร่วมการเต้นแอโรบิกกลางแจ้งเป็นหมู่คณะยามพระอาทิตย์ตกเย็นก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
วิธีการเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีศาลาแดง สถานีสีลม หรือโดยรถไฟใต้ดิน MRTที่สถานีลุมพินีก็ได้
4. สัมผัสบรรยากาศสีเขียวบนชั้นดาดฟ้า Siam Green Sky
ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน สวน Siam Green Sky ถือเป็นสวนบนดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ จัดทำขึ้นตามโครงการการเกษตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ผู้มาเยือนสามารถชมขั้นตอนการทำปุ๋ยออร์แกนิคและเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักด้วยตนเองได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีตลาดนัดสีเขียวทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์ที่สามของเดือน ซึ่งคุณสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือจะเลือกดูเลือกชิมอาหารจากพืชออร์แกนิคที่หลากหลายได้อย่างจุใจ
วิธีการเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม
5. ชมจระเข้ที่วัดจักรวรรดิ
ในขณะที่คุณกำลังเตร็ดเตร่อยู่แถว ๆ ย่านเยาวราชนั้น คุณสามารถเดินทางแวะเข้าไปใน วัดจักรวรรดิ เพื่อไปชมเหล่าจระเข้ตัวเป็นๆได้ การนำจระเข้เหล่านี้เข้ามาเลี้ยงไว้ในวัดนั้น เริ่มมาจากการจับจระเข้ตัวหนึ่งได้ในแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ ๆ กับวัด ปัจจุบันมีจระเข้ที่เลี้ยงไว้อยู่ด้วยกัน 3 ตัว โดยได้รับการดูแลจากพระภิกษุในวัด ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมได้
วิธีการเดินทาง : จากท่าเรือราชวงศ์ เดินตรงไปตามถนนราชวงศ์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็ก ๆ ซอยแรก จากนั้นจึงเลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปทางประตูด้านทิศใต้ของวัด
6. เที่ยวเตร็ดเตร่ไปบนถนนข้าวสาร
คุณจะได้พบกับงานปาร์ตี้และนักเดินทางแบ็คแพ็คเกอร์มากมายบนถนนเส้นนี้ ถนนข้าวสาร คือ สวรรค์สำหรับนักเดินทางที่มีงบประมาณจำกัดที่กำลังมองหาที่พักราคาถูก ที่นี่ยังเป็นแหล่งของร้านนวดแผนไทย บริษัทนำเที่ยวและร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน บนถนนเส้นนี้ก็จะเต็มไปด้วยบาร์และผับต่างๆ ที่เปิดให้บริการแก่นักเดินทางเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศความรื่นเริงสังสรรค์ ท่ามกลางเสียงดนตรียามค่ำคืน
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ ถนนข้าวสาร คือ บรรยากาศของการผ่อนคลาย เป็นอิสระ ผู้คนเป็นมิตรและยินดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คุณต้องมาเยือนให้ได้หากมีโอกาส
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถฟ้า BTS สยาม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ หรือสถานีราชวิถี การนั่งแท็กซี่ต่อไปยังถนนข้าวสารน่าจะเป็นวิธีการเดินทางที่ดีที่สุด เนื่องจากไม่มีเส้นทางรถไฟฟ้าเข้าไปถึงโดยตรง และแนะนำให้ขึ้นเฉพาะรถแท็กซี่ที่มีมิเตอร์แจ้งค่าโดยสารเท่านั้น
7. สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับขบวนรถไฟที่กำลังวิ่งผ่านที่ตลาดสถานีรถไฟแม่กลอง
เหตุผลที่ทำให้ตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือการดำเนินวิถีชีวิตที่ประสานสอดคล้องกันระหว่างรถไฟกับตลาด ผู้มาเยือนสามารถเดินบนรางรถไฟเพื่อเที่ยวชมตลาด ร้านค้าเสื้อผ้าและสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน และเมื่อขบวนรถไฟกำลังมาถึง กระดิ่งบอกสัญญาณเตือนก็จะดังขึ้น ซึ่งมีเวลามากพอให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้หุบร่มและเก็บหรือชักลากกระบะขายสินค้าของตนหลบออกจากรางรถไฟ และเมื่อขบวนรถไฟได้ผ่านพ้นไป เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็จะกางร่มกลับคืนพร้อมทั้งสินค้าต่าง ๆ และการค้าขายภายในตลาดก็ดำเนินต่อไปตามปกติ การที่ได้เห็นขบวนรถไฟวิ่งผ่านท่ามกลางตลาดในระยะประชิดจนคุณสามารถเอื้อมมือแตะขบวนรถไฟได้ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรทำ) นับเป็นประสบการณ์ที่พิเศษจริง ๆ คุณสามารถใช้โอกาสนี้ เก็บภาพแห่งความประทับใจเหล่านี้ไว้ แต่ระวังการถ่ายรูปเซลฟี่กับขบวนรถไฟที่เสี่ยงจนเกินไปด้วยละกันนะ
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประตูทางออกที่ 4 เดินออกมายังสถานีรถตู้โดยสารใต้ทางยกระดับ และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทางไปยังตลาดสถานีรถไฟแม่กลอง
8. แวะชมอุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ป่าและธรรมชาติ การเดินทางไปแวะชม อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพมหานคร เพื่อชื่นชมความงามของผีเสื้อสีสันสวยงามหลากหลายสายพันธุ์ในโดมกระจกขนาดใหญ่ ท่ามกลางหมู่พันธุ์ไม้ เช่น เฟิร์น และดอกไม้นานาชนิด ที่ผู้มาเยือนสามารถทำการสำรวจ ปิกนิก หรือเช่าจักรยานเพื่อปั่นในบริเวณโดยรอบของอุทยานได้ อีกทั้งการเดินทางมาเยือนอุทยานแห่งนี้ ยังเป็นการช่วยปัดฝุ่นความรู้เก่า ๆ ของคุณสมัยยังเป็นนักเรียนในเรื่องวงจรชีวิตของผีเสื้อ รวมทั้งข้อมูลและรายละเอียดของแมลงชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย
วิธีการเดินทาง : โดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีหมอชิต หรือโดยรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานีสวนจตุจักร
9. เดินช้อปปิ้งแบบสบาย ๆ ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร
หากถามนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครถึงสถานที่ที่ต้องไปเยือนมากที่สุด หนึ่งในคำตอบเหล่านั้นที่คุณอาจจะได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ ตลาดนัดสวนจตุจักร นี่เอง มันเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเดินเตร็ดเตร่เพื่อซึมซับบรรยากาศของร้านค้าและผู้คนมากมายได้อย่างมีอิสระ ที่ที่คุณสามารถใช้ทักษะในการต่อราคาสินค้ากับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าหลากหลายชนิดอยู่ในตลาดนัดแห่งนี้กว่า 15,000 ชีวิต แต่หากคุณต้องการจะควบคุมค่าใช้จ่ายของคุณไม่ให้บานปลายจนเกินไป ตลาดนั้นแห่งนี้ก็ถือเป็นสถานที่ที่คุณสามารถชื่นชมและเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น หากมาเป็นหมู่คณะ ก่อนเดินแวะชมตลาดนัด ควรทำการตกลงกันเรื่องจุดนัดหมายให้ชัดเจน เนื่องจากด้วยความที่มีร้านค้าแผงสินค้าและผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ อาจทำให้เกิดการพลัดหลงกัน หรือหลงทางได้
วิธีการเดินทาง : โดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีหมอชิต ทางออกที่ 1 หรือ 3 หรือโดยรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานีสวนจตุจักร ทางออกที่ 1 หรือ ลงที่สถานีกำแพงเพชร ทางออกที่ 1 ก็ได้
10. แวะพักไปทำสมาธิ สงบจิตใจที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
คุณเคยมีคิดอยากไปทำสมาธิบ้างมั๊ย? ถ้าใช่ คงไม่มีที่ไหนเหมาะที่สุดเท่ากับที่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร อีกแล้ว วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพมหานครและปัจจุบันยังเป็นวัดที่มีความสำคัญ คือเป็นสถานที่จำพรรษาของพระผู้ทรงตำแหน่งสมณศักดิ์ชั้นอธิบดีสงฆ์อีกด้วย โดยในวัดแห่งนี้มีการเปิดชั้นเรียนสอนการฝึกทำสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานฟรีให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจทุกวัน และที่น่าสนใจคือ มีชั้นเรียนที่ทำการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติอีกด้วย ลองไปฝึกทำจิตใจให้สงบ ผ่องใสโดยการวิปัสสนากรรมฐานดู ไม่แน่ คุณอาจจะได้อะไรมากกว่าที่คุณคิดไว้ก็ได้
วิธีการเดินทาง : โดยทางเรือ นั่งเรือไปขึ้นที่ท่าน้ำท่าช้าง เดินตรงออกมาจากท่าน้ำ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมหาธาตุ
ต้นฉบับบทความจาก amazingthaisea.com