27.9 C
Bangkok
วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 17, 2024

วิตามินบี

วิตามินบี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ มีส่วนช่วยในการเผาผลาญอาหาร การสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาทและสมอง การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และการผลิตเม็ดเลือดแดง

วิตามินบีมีทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่

  • วิตามินบี1 (ไทอามีน) จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา
  • วิตามินบี2 (ไรโบฟลาวิน) จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน การทำงานของเซลล์ และการทำงานของระบบประสาท
  • วิตามินบี3 (ไนอะซิน) จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  • วิตามินบี5 (กรดแพนโทเทนิก) จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของต่อมหมวกไต
  • วิตามินบี6 (ไพริดอกซิน) จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และการผลิตฮอร์โมนบางชนิด
  • วิตามินบี7 (ไบโอติน) จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินบี9 (โฟเลต) จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินบี12 (ไซยาโนโคบาลามิน) จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

แหล่งที่มาของวิตามินบี

วิตามิน

วิตามินบีสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด ทั้งจากพืชและสัตว์ แหล่งอาหารจากพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ได้แก่ ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้สีเหลือง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น แหล่งอาหารจากสัตว์ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเหลือง เป็นต้น

ปริมาณวิตามินบีที่ควรได้รับ

ปริมาณวิตามินบีที่ควรได้รับในแต่ละวันแตกต่างกันไปตามช่วงอายุและเพศ ดังนี้

อายุ ปริมาณวิตามินบี (ไมโครกรัม)
ทารกแรกเกิด-6 เดือน 100
7-12 เดือน 150
1-3 ปี 200
4-8 ปี 250
9-13 ปี 300
14-18 ปี (ชาย) 300
14-18 ปี (หญิง) 250
19-70 ปี (ชาย) 300
19-70 ปี (หญิง) 250
มากกว่า 70 ปี (ชาย) 300
มากกว่า 70 ปี (หญิง) 250

 

ประโยชน์ของวิตามินบี

วิตามินบีแต่ละชนิดมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย ดังนี้

  • วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา มีส่วนช่วยในการเผาผลาญอาหาร การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  • วิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การทำงานของเซลล์ และการทำงานของระบบประสาท
  • วิตามินบี 3 ช่วยป้องกันโรค Pellagra มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
  • วิตามินบี 5 ช่วยป้องกันโรคผิวหนังอักเสบ มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของต่อมหมวกไต
  • วิตามินบี 6 ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และการผลิตฮอร์โมนบางชนิด
  • วิตามินบี 7 ช่วยป้องกันโรคผมร่วง มีส่วนช่วยในการสร้างพลังงาน การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินบี 9 ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินบี 12 ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของระบบประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

ภาวะขาดวิตามินบี

ภาวะขาดวิตามินบีอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ดังนี้

  • วิตามินบี 1 ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ชาตามปลายมือปลายเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • วิตามินบี 2 ทำให้เกิดอาการปากนกกระจอก ผิวหนังอักเสบ
  • วิตามินบี 3 ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ท้องเสีย ผิวหนังอักเสบ
  • วิตามินบี 5 ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • วิตามินบี 6 ทำให้เกิดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า กล้ามเนื้ออ่อน

บทความ ข่าวสาร มาใหม่

ททท. ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวลาวบนรถไฟทดลองเต็มรูปแบบจากเวียงจันทน์สู่กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ 14 กรกฎาคม 2567 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย...

พรีวิว: โคปา อเมริกา 2024 จัดที่สหรัฐอเมริกา

โคปา อเมริกา 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปอเมริกาใต้ครั้งที่ 48 แต่จะจัดขึ้นที่สหรัฐ...

ตลาดนัดแม่สาย: การค้าชายแดนไทย-พม่า

ตลาดนัดแม่สายตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างประเทศไ...

วิธีการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ความสำคัญของการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีความสำคัญอย่า...

ประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มสมรรถภาพทางกายอย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังก...