ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ดวงที่สี่จากดวงอาทิตย์ เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลกมากที่สุดในระบบสุริยะ ดาวอังคารมีพื้นผิวแห้งแล้ง เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตและภูเขาไฟ บรรยากาศของดาวอังคารเบาบางมาก ประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นหลัก
พื้นผิวของดาวอังคาร
พื้นผิวของดาวอังคารมีลักษณะคล้ายคลึงกับทั้งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ และภูเขาไฟ หุบเขา ทะเลทราย ตลอดจนพิดน้ำแข็งขั้วดาวที่ปรากฏบนโลก คาบการหมุนรอบตัวเองและวัฏจักรฤดูกาลของดาวอังคารก็มีความคล้ายคลึงกับโลกซึ่งความเอียงก่อให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ
ดาวอังคารมีภูเขาไฟใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะคือ ภูเขาไฟโอลิมปัสมอนส์ สูง 21,171 เมตร สูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์บนโลกถึง 2 เท่า ดาวอังคารยังมีหุบเขาลึกที่สุดคือ หุบเขาวาเลสมาริเนริส ยาว 4,000 กิโลเมตร ลึก 7 กิโลเมตร กว้าง 200 กิโลเมตร
พื้นผิวของดาวอังคารยังมีร่องรอยของน้ำอยู่หลายแห่ง เช่น
- แอ่งโบเรียลิส เป็นแอ่งที่ราบเรียบขนาดใหญ่ในซีกโลกเหนือของดาวอังคาร สันนิษฐานว่าแอ่งนี้อาจเกิดจากน้ำแข็งที่หลอมละลายจากชั้นบรรยากาศ
- หุบเขาวาเลสมาริเนริส เป็นหุบเขาขนาดใหญ่ที่ยาวที่สุดและลึกที่สุดในระบบสุริยะ สันนิษฐานว่าหุบเขานี้อาจเกิดจากการไหลของน้ำ
- ไฮโดรเจน นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบไฮโดรเจนในชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร สันนิษฐานว่าไฮโดรเจนเหล่านี้อาจมาจากน้ำแข็งที่ฝังอยู่ในชั้นหินใต้พื้นผิว
ร่องรอยของน้ำเหล่านี้บ่งชี้ว่าดาวอังคารเคยมีสภาพเป็นทะเลสาบและมหาสมุทรมาก่อน สิ่งมีชีวิตอาจถือกำเนิดขึ้นบนดาวอังคารในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ชัดเจนว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคารนั้นยังไม่พบ
บรรยากาศของดาวอังคาร
บรรยากาศของดาวอังคารเบาบางมาก ประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นหลัก ปริมาณก๊าซออกซิเจนในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารมีเพียง 0.13% เท่านั้น น้อยกว่าปริมาณก๊าซออกซิเจนในชั้นบรรยากาศของดวงจันทร์ถึง 100 เท่า
ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารไม่สามารถป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์ได้ ส่งผลให้พื้นผิวของดาวอังคารได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์มากกว่าพื้นผิวของโลกมาก
ดาวบริวารของดาวอังคาร
ดาวอังคารมีดาวบริวารสองดวงคือ โฟบอส และดีมอส โฟบอสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 22 กิโลเมตร ดีมอสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 กิโลเมตร
โฟบอสและดีมอสมีขนาดเล็กและรูปร่างบิดเบี้ยว ไม่เป็นรูปกลม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโฟบอสและดีมอสอาจเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกดาวอังคารดึงดูดเข้ามาไว้ในเขตแรงโน้มถ่วง