พลับพลึงธาร บานสะพรั่งที่เดียวในเมืองไทย

หากพูดถึงดอกพลับพลึง หลาย ๆ ท่านคงจะนึกถึงดอกสีขาวอันบริสุทธิ์ และพอกสีชมพูอันแสนหวาน อยู่ท่ามกลางใบสีเขียวที่ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วในกระถางหรือแปลงดอกไม้ แต่ทว่าพลับพลึงธารนี้ช่างต่างกันยิ่งนัก เพราะความพิเศษของพลับพลึงธารนี้เป็นพืชเฉพาะถิ่นและต้องอยู่ในลำธารเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถพบดอกพลับพลึงธารซึ่งอยู่ในเขตอำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนองได้ที่ “คลองนาคา” ซึ่งที่นี่เป็นที่เดียวในเมืองไทยและเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่สามารถพบดอก พลับพลึงธาร บานสะพรั่งอย่างสวยงามมากที่สุด

เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ในช่วงที่พลับพลึงธารออกดอกบานสะพรั่งสีขาวสวยงามดุจภาพวาดเต็มลำคลองนาคา ใครอยากสูดดมกลิ่นหอมของดอกพลับพลึงธารให้ชุ่มปอดต้องมาแต่เช้าหน่อยค่ะ ยิ่งมาก่อนแดดออกยิ่งดี รับรองว่าจะได้กลิ่นหอมฟุ้งโดยเฉพาะที่บริเวณ “ปากคลองเรือ” คุณสามารถลงเดินไปชมพลับพลึงธารใกล้ ๆ ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้เห็นภาพของพืชน้ำที่ออกดอกสีขาวสวยงาม มีใบสีเขียวสดที่ยาวมากหลู่ไปตามกระแสน้ำไหลเป็นภาพที่ชัดเจน และสวยงามแปลกตาเสมือนเป็นลวดลายการไหลของสายน้ำที่มีความงดงามราวกับศิลปะที่มองไม่รู้จักเบื่อ โดยเฉพาะต้นพลับพลึงธารที่บานอยู่เต็มลำน้ำท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดอกพลับพลึงธารที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งสายน้ำคลองนาคา” 

เดือนที่ควรไปท่องเที่ยว

โอกาสมีไม่มากนะคะ เพราะหากจะมาชมพลับพลึงธารบานสะพรั่ง คุณจะมีเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งดอกพลับพลึงธารจะบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอยู่ในช่วงตลอด เดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม ของทุกปีเท่านั้น

กิจกรรมแนะนำเมื่อมาท่องเที่ยว

1. ล่องแพแลพลับพลึงธาร หนึ่งเดียวในโลก  

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมระดับโลกแห่งความทรงจำดี ๆ สำหรับการล่องแพชมดอกพลับพลึงธาร พืชน้ำที่พบเพียงเมืองไทยที่นี่ที่เดียวเท่านั้น สุดยอดความอเมซิ่งกับกลิ่นหอม ๆ เต็มท้องน้ำ ที่คุณสามารถร่วมกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ผจญภัย ตามลำคลองนาคา กับน้ำใส ๆ ไหลเย็นที่มีความสวยงาม ซึ่งที่นี่ชาวบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ในนาม “ชมรมเพลินไพรศรีนาคา” ที่เปิดบริการนักท่องเที่ยวนำชมคลองนาคาด้วยการล่องแพ ท่ามกลางดอกพลับพลึงธารบานอยู่เต็มไปหมด  ที่คลองนี้น้ำไม่ลึกมาก ซึ่งแพหนึ่งลำนั่งกันได้ 4 คน มีคนถ่อแพคอยบรรยายความเป็นคลองนาคาให้เราฟังไปตลอดทาง ด้วยระยะทาง 7 กิโลเมตร ตลอดทางจะแวะชมความงามของดอกพลับพลึงธารอยู่สามจุดชิล ๆ ท่ามกลางพืชพันธุ์ไม้ที่อยู่รอบข้างลำธารและกลิ่นหอม ๆ ของดอกพลับพลึงธาร

2. ปลูกพลับพลึงธาร

เดือนที่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาล่องแพ จะเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ธรรมชาติฟื้นฟูที่คลองนาคา ซึ่งหากใครได้มาท่องเที่ยวชมพลับพลึงธารในช่วงเดือนธันวาคม อาจจะได้ร่วมกิจกรรมการเก็บเมล็ดกันตั้งแต่ช่วงตลอดเดือนธันวาคม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาช่วยกันได้ หากใครสนใจอยากจะร่วมกิจกรรมเก็บเมล็ดพลับพลึงธารที่ปากคลองเรือ หรืออยากจะมาช่วยกันปลูกก็ติดต่อมาที่ประธานกลุ่มได้ค่ะ เพราะหลังจากเก็บเมล็ดแล้วก็จะเตรียมไว้หว่าน ในช่วงเดือนมกราคมหลังฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งการปลูกจะใช้เวลากว่าจะเป็นต้นและออกดอกก็ประมาณ 2 ปีเลยทีเดียว

3. เล่นน้ำท่ามกลางกลิ่นหอม ๆ ของดอกพลับพลึงธาร

คุณสามารถมาสร้างความสนุกสนาน หรือโรแมนติกที่สถานที่ลำคลองนาคาแห่งนี้ได้ค่ะ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยดอกพลับพลึงธารบานอยู่เต็มลำน้ำสวยงามมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำเพราะเป็นคลองน้ำใส ที่มีน้ำไหลตลอดเวลา คลองนาคาจัดเป็นลำน้ำสวยที่เหมาะที่สุดสำหรับพลับพลึงธาร ซึ่งหลายคนมีเป้าหมายมาล่องแพและเล่นน้ำกันท่ามกลางกลิ่นหอม ๆ ของดอกพลับพลึงธารโดยสามารถเล่นน้ำบริเวณไหนก็ได้เช่นกันเพราะมีความสวยและกลิ่นหอม ๆ ของดอกพลับพลึงธารรับรองว่าหาที่ไหนไม่ได้แน่นอน

ข้อควรรู้

1. เตรียมตัวก่อนล่องแพ

ถ้าจะให้ดีหากต้องการล่องแพพร้อมกับเล่นน้ำ แนะนำให้มาเที่ยวช่วงเช้าจะสวยสุดค่ะโดยเฉพาะช่วง 7 โมง แล้วค่อยขึ้นฝั่ง 11 โมง ชิล ๆ กับความสนุกราคาก็ตกคนละ 450 บาทพร้อมอาหารเที่ยง แพหนึ่งลำสามารถนั่งได้ 4-5 คน หากมาไม่ครบ 4 คน ก็คงต้องคิดราคาเหมาอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท และจะมีค่าบรรทุกอีกลำละ 200 บาท (รวมราคา 2,000 บาทต่อลำ) ส่วนใครเลือกล่องแพยางไม่มีค่าบรรทุกและมาคนเดียวก็สามารถไปได้ในราคาเดียวกัน 450 บาท ระยะทาง การล่องแพมีความยาว 7 กิโลเมตร โดยใช้เวลาในการล่องแพประมาณ 4 ชั่วโมง และมีจุดหลัก ๆ ที่จะชมพลับพลึงธาร 3 จุด

2. การให้ความร่วมมือ..ในการร่วมอนุรักษ์พลับพลึงธาร

เมื่อมาเที่ยวชมดอกพลับพลึงธารคุณสามารถเก็บหัวพลับพลึงธารที่หลุดลอยตามกระแสน้ำกลับไปให้เจ้าหน้าที่เอาไว้สำหรับปลูกหรืออนุบาลได้ เมื่อลงเล่นน้ำก็ควรหลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำต้นพลับพลึงธาร ที่สำคัญต้องไม่เด็ดดอกพลับพลึงธาร เพื่อเปิดโอกาสให้มันแตกผล และขยายพันธุ์ต่อไป ไม่ตัดใบพลับพลึงธาร เพราะมันจะช่วยลดความรุนแรงของกระแสน้ำ หรือไม่ขุดหัวพลับพลึงธารไปขาย ไม่ทำลายพันธุ์ไม้พื้นเมืองหรือพืชคลุมดินที่ขึ้นบริเวณริมฝั่งคลองและไม่ทิ้งขยะลงในลำคลอง ซึ่งการให้ความร่วมมือในกิจกรรมอนุรักษ์พลับพลึงธาร ยังเป็นการช่วยปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ที่ช่วยคงความอุดมสมบูรณ์ของพลับพลึงธารตามธรรมชาติในระยะยาว

ข้อมูลจำเพาะการท่องเที่ยว

• คุณชำนิ อุ่นขาว ประธานชมรมเพลินไพรศรีนาคาโทรศัพท์ : 08-6120-9700
• คุณเสรี นาคบุญ ประธานชมรมป่าสร้างฝัน จ.ระนอง โทรศัพท์  : 08-6740-4533
• เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา จ.ระนอง โทรศัพท์ :  077-828-174
• เทศบาลเมืองระนอง โทรศัพท์  : 077-811-422
• องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง โทรศัพท์ : 077-812-371

จองโรงแรมที่พักจังหวัดระนอง