อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทะเลดอกไม้ท่ามกลางสายหมอก ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งหากคุณได้มีโอกาสไปเยือนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จะได้ยินเสียงธารน้ำไหลกลิ่นหอมใบหญ้าของทุ่งดอกไม้ละลานตาที่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่มีค่าที่คุณจะได้รับตลอดเวลาการเดินทางเมื่อเดินขึ้นไปยอดภูสอยดาว ที่อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำ หรับนักเดินเท้าหลายๆคนนัก เพราะเนินที่สูงชันบวกกับเส้นทางแคบคดเคี้ยวที่จะต้องค่อยๆ ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอาจทำให้การเดินทางนั้นยากและท้าทายกว่าดอยไหนๆ แต่ก็ยังมีใครต่อใครอีกหลายคนพยายามพิชิตยอดดอย เพื่อตามเก็บภาพแห่งความงามอันมหัศจรรย์ของทุ่งดอกหงอนนาค ซึ่งเป็นราชินีแห่งดอกไม้ที่กำลังผลิดอกบานสะพรั่งมีทั้งดอกสีขาวและดอกสีม่วงอ่อน ในยามเช้าดอกจะหุบ และจะเบ่งบานโชว์ความสวยงามเมื่อยามต้องแสงแดดในช่วงสายๆ เพื่อห่มคลุมทั่วทุ่งกว้างบนภูสอยดาว รวมไปถึงดอกไม้ชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่นอย่าง ดอกสร้อยสุวรรณา ดอกเอื้องหมายนา ดอกลิลลี่ ดอกป่าลิ้นมังกร ว่านไก่แดง ดอกหงอนนาค, ดอกสร้อยสุวรรณา, ดอกรากหอม ส่วนฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน , กล้วยไม้รองเท้า, นารีอินทนนท์ และต้นเมเปิ้ล ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมาก ตลอดเส้น ทางการเดินเท้า คุณจะได้พบกับดอกไม้พืชพรรณต่างๆ ที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว จากผืนหมอกที่ปกคลุมป่าสนสามใบเรียงรายไปไกลสุดสายตา ทำให้ที่ภูสอยดาวแห่งนี้แลดูราวกับภาพวาดชวนฝันที่แสนหวาน และโรแมนติก ให้ความคุ้มค่าแก่การมาเยือนยิ่งนัก
ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นเทือกเขากั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนตั้งแต่ทิศเหนือจดทิศใต้ โดยมียอดภูสอยดาวสูงที่สุด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าไม้ แต่มีพื้นที่ราบและยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด สภาพพื้นที่โดยทั่วไปถูกปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติอันเขียวชอุ่มและดอกไม้ดินนานาชนิด ซึ่งเป็นป่าดิบเขาสลับทุ่งหญ้าและ ป่าสน อย่างป่าสนสามใบ ที่ภูสอยดาวจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีและมีดอกไม้ป่าพันธุ์ต่างๆ อย่างดอกหงอนนาคขึ้นอยู่กลางป่าสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากอยากดูดอกไม้สีสวยๆ ที่ขึ้นเพื่อรับความชุ่มชื้นควรจะมาในช่วงปลายฝนต้นหนาว
ทุ่งดอกหงอนนาค คือ อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ทุกๆช่วงระหว่างเดือนกันยายน – ต้นพฤศจิกายนของทุกๆปี เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเดินทางไปเยือนบนลานสนภูสอยดาว ซึ่งจะเต็มไปด้วยพรรณไม้ดอกนานาชนิด แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นดอกหงอนนาค ดอกไม้สีม่วงอ่อน หรือ ม่วงน้ำเงิน ของดอกหงอนนาค สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน ที่ต่างก็เริ่มทยอยกันเบ่งบานสะพรั่งอวดความงามทั่วลานสนสามใบ โดยดอกหงอนนาค เป็นดอกไม้หน้าฝนที่ถือว่าเป็นนางเอกของงาน
เดือนที่ควรไปท่องเที่ยว
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเดินทางไปเยือนที่ภูสอยดาว คือช่วงเดือนกันยายน – ต้นพฤศจิกายน บนลานสนภูสอยดาวจะเต็มไปด้วยพรรณไม้ดอกนานาชนิด แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือดอกหงอนนาค ดอกไม้สีม่วงอ่อน ซึ่งจะบานสะพรั่งอวดความงามทั่วลานสนสามใบ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ ช่วงเวลาเช้าก่อน 09.00 น. และจุดชมวิวที่ดีที่สุดคือลานป่าสนบริเวณที่ตั้งแคมป์ภูสอยดาว
กิจกรรมแนะนำเมื่อมาท่องเที่ยว
1. ปีนภูดูทะเลดอกไม้บนภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นภูเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งท้าทายนักเดินทาง ให้ปีนขึ้นไปเป็นผู้พิชิต ด้วยระยะเวลาผจญภัยราวๆ กว่า 4-5 ชั่วโมง ซึ่งรางวัลชีวิตที่ได้คือการได้เก็บภาพความสวยงามของทุ่งหญ้า และป่าสนสามใบมุมมองสวยงามแปลกตาก โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นดอกหงอนนาคที่สวยทีสุดคือ ในช่วงเดือนสิงหาคม เพราะจะออกดอกสะพรั่งท่ามกลางป่าสนที่มักปกคลุมไปด้วยสายหมอก จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของความโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งแม้ว่าการพิชิตยอดภูสอยดาวจะท้าทาย หรือเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหน แต่หากปลายทางมีดินแดนที่แสนจะโรแมนติก และงดงามราวกับสวรรค์รออยู่ ทุกย่างก้าวของการเดินทางก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำที่สวยงาม
2. จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในภูสอยดาว
ที่อุทยานแห่งชาติ ภูสอยดาว มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างน้ำตกภูสอยดาวซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ โดยน้ำตกจะมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ ซึ่งจะมีน้ำไหลตลอดปี
ข้อควรรู้
1. ลานสนยอดภูสอยดาว
ที่อุทยานแห่ชาติภูสอยดาว บนลานสนจะเป็นทุ่งหญ้า มีต้นสนสองใบ สนสามใบและต้นหงอนนาค ที่มีดอกสีม่วงตัดกับดอกสร้อยสุวรรณาที่มีสีเหลือง ออกดอกให้ดูสวยงาม รวมทั้งดอกไม้อีกนานาชนิดที่ขึ้นอวดความสวยงามและสร้างความสดขื่นสดใสให้กับลานสน ที่แห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามด้วย
2. บนภูสอยดาวไม่มีที่พัก
บนลานสนที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ไม่มีบ้านพักและอาหาร หากต้องการจะขึ้นไปพักค้างแรมต้องเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง และหากต้องการลูกหาบช่วยขนสัมภาระก็มีบริการเช่นกัน (อย่าลืมสอบถามราคาก่อน)
3. อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ข้อมูลจำเพาะการท่องเที่ยว
- สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดแพร่ โทรศัพท์ : 054-521-118-9, 054-521-127
- อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทรศัพท์ : 055-436-793 , 095-629-9528 (สำหรับติดต่อในเวลาราชการเท่านั้น)