นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในสหราชอาณาจักร รายงานว่าพวกเขาได้ตรวจพบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนอกโลกโบราณในหินอายุ 4.2 พันล้านปีจากออสเตรเลีย นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกอาจเคยมีอยู่จริง
ร่องรอยดังกล่าวถูกพบในหินฟอสซิลที่เรียกว่า stromatolites ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยสาหร่ายและแบคทีเรีย หินฟอสซิลเหล่านี้พบได้ทั่วไปบนโลก แต่ไม่เคยพบในหินที่เก่าแก่ขนาดนี้มาก่อน
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าร่องรอยเหล่านี้เกิดจากสาหร่ายและแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบหรือมหาสมุทรบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ร่องรอยเหล่านี้ประกอบด้วยชั้นของคาร์บอนและไฮโดรเจน ซึ่งบ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์
การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อประมาณ 3.8 พันล้านปีก่อน
การค้นพบนี้ยังสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าสิ่งมีชีวิตอาจเกิดขึ้นได้ทั่วไปในเอกภพ เป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกอาจเคยมีอยู่จริงบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ และอาจยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าพวกเขาต้องการศึกษาร่องรอยเหล่านี้เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการค้นพบของตน พวกเขายังต้องการค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนอกโลกในหินที่เก่าแก่กว่านั้น เพื่อดูว่าสิ่งมีชีวิตอาจเกิดขึ้นได้เร็วแค่ไหน
การค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก และอาจนำไปสู่ความก้าวหน้าใหม่ๆ ในความเข้าใจของเราเกี่ยวกับเอกภพ
ความเป็นไปได้อื่นๆ
นอกจากการค้นพบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนอกโลกแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังพบหลักฐานอื่นๆ ที่อาจบ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตอาจเคยมีอยู่จริงบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
- ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรายงานว่าพวกเขาได้พบหลักฐานของน้ำเหลวบนดาวเคราะห์นอกระบบชื่อ Kepler-186f ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลกที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 500 ปีแสง
- ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดรายงานว่าพวกเขาได้พบหลักฐานของเมทานบนดาวเคราะห์นอกระบบชื่อ K2-18b ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ก๊าซขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 110 ปีแสง
หลักฐานเหล่านี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งมีชีวิตเคยมีอยู่จริงบนดาวเคราะห์ดวงเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันแสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในเอกภพอาจมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต
อนาคตของการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
การค้นพบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนอกโลกในหินอายุ 4.2 พันล้านปีเป็นก้าวสำคัญในการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องศึกษาร่องรอยเหล่านี้เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการค้นพบของตน และพวกเขายังต้องการค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนอกโลกในหินที่เก่าแก่กว่านั้น เพื่อดูว่าสิ่งมีชีวิตอาจเกิดขึ้นได้เร็วแค่ไหน
ในอนาคต คาดว่าการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กล้องโทรทรรศน์รุ่นใหม่ๆ เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในเอกภพได้ละเอียดยิ่งขึ้น และมีโอกาสมากขึ้นที่จะพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิต
การค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มันจะทำให้เราเข้าใจว่าโลกของเราเป็นส่วนหนึ่งของเอกภพอย่างไร และมันอาจทำให้เราค้นพบว่าไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในเอกภพ
อ้างอิง
- https://ngthai.com/science/52366/scientists-detect-traces-of-an-ancient-alien/
- https://www.pwsalestone.com/category/238/%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%8Cstromatolite-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2