การหมุนของโลกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สำคัญอย่างหนึ่งของโลก โดยโลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วประมาณ 1,670 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือประมาณ 0.03 เมตรต่อวินาที คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมเราถึงไม่รู้สึกถึงการหมุนของโลกกันนะ
คำตอบง่ายๆ คือ เพราะทุกอย่างบนโลกเคลื่อนที่ไปพร้อมกับโลกด้วยความเร็วเดียวกัน
ลองนึกภาพว่าเรากำลังนั่งอยู่บนรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ เราจะไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนที่ของรถไฟ เว้นแต่ว่ารถไฟจะเร่งความเร็วขึ้นหรือชะลอความเร็วลง หรือมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการเคลื่อนที่ เราจะรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงหรือแรงโน้มถ่วงที่แตกต่างกันไป ทำให้รู้สึกถึงการเคลื่อนที่ของรถไฟได้
ในกรณีของการหมุนของโลก สิ่งต่างๆ บนโลกก็เคลื่อนที่ไปพร้อมกับโลกด้วยความเร็วคงที่เช่นเดียวกัน ดังนั้น เราจึงไม่สามารถรู้สึกถึงการเคลื่อนที่ของรถไฟได้
นอกจากนี้ แรงดึงดูดของโลกยังช่วยยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆ บนโลกไม่ให้หลุดลอยออกไป แม้ว่าโลกจะหมุนก็ตาม
หากโลกหยุดหมุนทันที สิ่งต่างๆ บนโลกก็จะยังคงเคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็วเดิม ดังนั้น เราจึงจะรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงที่ผลักเราออกไปจากโลก ซึ่งหากแรงเหวี่ยงนี้มากพอ ก็จะทำให้เราลอยขึ้นไปในอากาศได้
นอกจากนี้ หากโลกหมุนด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น แรงเหวี่ยงก็จะยิ่งมากขึ้น ทำให้สิ่งต่างๆ บนโลกถูกเหวี่ยงออกไปจากโลกมากขึ้นเช่นกัน
ดังนั้น การหมุนของโลกจึงมีผลต่อสิ่งต่างๆ บนโลกอยู่บ้าง เพียงแต่เราไม่สามารถรู้สึกถึงการหมุนของโลกได้เนื่องจากความเร็วในการหมุนของโลกนั้นคงที่ และแรงดึงดูดของโลกยังช่วยยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆ บนโลกไม่ให้หลุดลอยออกไป
การพิสูจน์การหมุนของโลก
นักวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์การหมุนของโลกได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า ฟลิปเปอร์ (Flippers)
ฟลิปเปอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกับไม้กระดานที่มีหัวท้ายยาวไม่เท่ากัน เมื่อวางฟลิปเปอร์ไว้บนพื้นแล้วหมุนโลก หัวของฟลิปเปอร์จะชี้ไปในทิศทางที่โลกหมุน
อีกวิธีหนึ่งในการพิสูจน์การหมุนของโลกคือการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เข็มทิศ
เข็มทิศเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดทิศทาง เข็มทิศจะชี้ไปในทิศทางของขั้วแม่เหล็กโลก ซึ่งขั้วแม่เหล็กโลกจะเคลื่อนที่ไปตามการหมุนของโลก ดังนั้น หากเราสังเกตทิศทางของเข็มทิศเป็นเวลานาน เราจะพบว่าเข็มทิศจะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ตามการหมุนของโลก
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังสามารถพิสูจน์การหมุนของโลกได้ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า กล้องโทรทรรศน์
กล้องโทรทรรศน์สามารถมองเห็นดาวเคราะห์อื่นๆ ในระบบสุริยะของเราได้ เมื่อเราสังเกตดาวเคราะห์อื่นๆ ผ่านกล้องโทรทรรศน์ เราจะพบว่าดาวเคราะห์เหล่านั้นเคลื่อนที่ไปรอบๆ ดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ ซึ่งความเร็วในการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์นั้นสัมพันธ์กับความเร็วในการหมุนของโลก
ผลกระทบของการหมุนของโลก
การหมุนของโลกมีผลต่อสิ่งต่างๆ บนโลกอยู่มากมาย ดังนี้
ทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน
การหมุนของโลกทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน เนื่องจากด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์จะได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ส่วนด้านที่หันออกจากดวงอาทิตย์จะมืดมิด
ทำให้เกิดแรงเหวี่ยง
การหมุนของโลกทำให้เกิดแรงเหวี่ยงขึ้นบนโลก แรงเหวี่ยงนี้จะส่งผลให้สิ่งต่างๆ บนโลกถูกเหวี่ยงออกไปจากศูนย์กลางการหมุนของโลก
ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วง
การหมุนของโลกทำให้เกิดแรงโน้มถ่วงขึ้นบนโลก แรงโน้มถ่วงนี้จะส่งผลให้สิ่งต่างๆ บนโลกถูกดึงดูดเข้าหาศูนย์กลางการหมุนของโลก
ทำให้เกิดแรง Coriolis
การหมุนของโลกทำให้เกิดแรง Coriolis ขึ้นบนโลก แรง Coriolis นี้จะส่งผลต่อทิศทางการไหลของกระแสน้ำและลม
สรุป
เราไม่สามารถรู้สึกถึงการหมุนของโลกได้ เนื่องจากความเร็วในการหมุนของโลกนั้นคงที่ และแรงดึงดูดของโลกยังช่วยยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆ บนโลกไม่ให้หลุดลอยออกไป อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์การหมุนของโลกได้หลายวิธี การหมุนของโลกมีผลต่อสิ่งต่างๆ บนโลกมากมาย เช่น ทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน ทำให้เกิดแรงเหวี่ยง ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วง และทำให้เกิดแรง Coriolis
อ้างอิง
- https://ngthai.com/science/52638/why-we-dont-feel-earth-rotation/