สวัสดีค่า ทุกคน วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมอันดับต้นๆของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพนั่นเอง เส้นทางในการเดินทางครั้งนี้คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ – พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ – ขุนช่างเคี่ยน คะ สำหรับการเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวนั้นถือว่าไม่ลำบากเลยคะ เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก ทุกคนสามารถเลือกการเดินทางได้เลยนะคะ ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถสองแถว หรือว่าซิ่งมอไซค์ขึ้นไปเลยค่า ทางสะดวกไม่ชันมากนะ นักบิดถือว่าน่าสนุกเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งสำหรับดิฉันเลือกใช้การเดินทางขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสเทพโดยการซิ่งมอไซค์ค่า เราไปเริ่มกันเลยคะ
เราเริ่มจากไปเช่ามอไซค์คะ วันละ 200 บาท ถ้าลงทะเบียนออนไลน์จะได้ส่วนลดวันละ 25 บาท ร้านชื่อร้าน Bikky อยู่ที่ถนนห้วยแก้ว พอเช่ารถเสร็จเราก็ซิ่งกันเลยคะ ขับรถประมาณ 20 นาที เราก็ถึง วัดพระธาตุดอยสุเทพ คะแต่ขอบอกก่อนนะคะว่าการขับขี่ยานพาหนะใน เชียงใหม่ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเนื่องจากเช่าหาง่าย จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าไทยหรือต่างชาติ ขับกันได้ตามใจเลย บางคนขับเร็วบางคนขับไม่รู้กฎจราจร และรถในเมืองก็เยอะมาก ๆ เลยละคะ
พอมาถึง วัดพระธาตุดอยสุเทพ หน้าวัดก็จะมีของที่ระลึกจำหน่ายจำนวนมาก ซึ่งราคาย่อมเยาว์ ไม่แพงมาก และการขึ้นไปสักการะ พระธาตุดอยสุเทพ เดี๋ยวนี้ก็มีการอำนวยความสะดวกสบายเช่น กระเช้าไฟฟ้า จึงเป็นที่สะดวกสบายต่อการขึ้นไปของผู้สูงอายุมากคะ แต่เรายังวัยรุ่นเอ๊าะๆกันอยู่ เลยเดินขึ้นกันคะ แต่พอมาถึงข้างบนก็ทำเอาซะลมแทบจับเหมือนกัน แต่ก็คุ้มนะคะที่ขึ้นมาเพราะพระธาตุสวยมากๆๆ แต่คนก็เยอะเช่นกัน ทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็จะมาไหว้พระขอพร เช่าพระหรือของปลุกเสก เนื่องจากวัดมีชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะมาก ๆ บทสวดเลยมีเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ สุดยอดกันเลยทีเดียว มุมมหาชนที่นี่ก็จะเป็นมุมที่ถ่ายกับพระธาตุคะ ในวัดก็จะมีบริการถ่ายภาพกับพระธาตุใบละ 100บาท ซึ่งใครอยากได้ภาพก็สามารถบอกช่างภาพที่ยืนหาลูกค้าแถว ๆ องค์พระธาตุได้เลยคะ พอไหว้พระเสร็จเราก็เดินๆดูสถาปัตยกรรมต่างภายในวัดสวยงามมาก ๆ เลยคะ
พอไหว้พระกันอิ่มใจแล้วก็ถึงเวลาลงแล้วคะซึ่งขาลงนี่ สบายมาก ๆ ๆ ขอบอกว่าห้องน้ำที่วัดนี้ไฮโซมากเลยค่าสะดวกสะอาดสุดยอดจริง ๆ ต้องลองนะคะ
ขาลงเราก็สามารถซื้อของฝากได้ตลอดทางลงนะคะของเยอะมากๆ ราคาไม่แพง บางร้านเป็นชาวม้งมาจากบนดอยเลยคะ บางจุดของทางลงก็จะมีเด็ก ๆ ม้งรอให้เราถ่ายรูปคู่ด้วย ซึ่งน้องเค้าก็จะขอค่าขนมเล็ก ๆ น้อยคะ
พอเราไหว้พระกันอย่างอิ่มใจแล้ว ก็ลงมาข้างล่างเพื่อแว๊นไปต่อซึ่งเส้นทางที่เราจะแว๊นกันต่อคือเส้นทางถัดขึ้นจาก วัดพระธาตุดอยสุเทพ คะซึ่งสถานที่ที่เราจะไปต่อนั้นคือ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ คะ ซึ่งล่ำลือกันว่าดอกไม้สวยมาก ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่พญาเสือโคร่งกำลังบานพอดิบพอดี ก็เยี่ยมไปเลยละคะ การเข้าชมพระตำหนักจะเสียค่าบริการคนละ 50 บาท นะคะ สำหรับผู้ใหญ่ เข้าไปแล้วอยู่ได้ทั้งวันเพราะในนั้นสวยมาก ๆ ดอกไม้นานาชนิด เรียกว่าเดินกันจนขาขวิดก็ยังเดินไม่ทั่ว พันธุ์ไม้ส่วนมากจะเป็นกุหลาบพันปี เฟริ์น ดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งสวยงามทุกสวน
ชมดอกไม้กันจนเลี่ยนแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะออกเดินทางไป ขุนช่างเคี่ยน เพื่อตามล่าพญาเสือโคร่งที่สวยงามอีกที่หนึ่งของ เชียงใหม่ คะการเดินทางไป ขุนช่างเคี่ยน คือเลยขึ้นไปทางไปดอยปุยคะ มีป้ายบอกทางตลอดนะคะไม่ต้องกลัวหลง แต่ทางค่อนข้างแคบและบางช่วงเป็นดิน ซึ่งรถยนต์ไปค่อนข้างที่จะลำบาก ส่วนพวกเราแว๊นมอไซค์กันไปก็สบายมาก ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าใครมารถประจำทาง หรือรถสองแถว ที่หน้าพระตำหนักก็มีบริการรถเช่ามา ขุนช่างเคี่ยน นะคะ ซึ่งแอบกระซิบว่าค่ารถแพงหูดับเลย เช่ามอไซค์เติมน้ำมันแล้วแว๊นขึ้นมาคุ้มกว่าเยอะ ฮ่า ๆ
มันสวยมากกกก การเดินทางต่อให้ยากลำบากเพียงใด มาเจอวิวสวย ๆ แบบนี้ บอกเลยคะว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง มองไปมีแต่ธรรมชาติที่สวยงาม มีความสุข ผ่อนคลาย โอ้โห มันเป็นอะไรที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกจริง ๆ กดชัตเตอร์รัว ๆ ค่ะ
บน ขุนช่างเคี่ยน ก็ไม่มีอะไรมากคะ นอกจากพญาเสือโคร่งที่สวยสดงดงามอร่ามตา มีแปลงปลูกกาแฟอาราบิก้า ที่เป็นผลผลิตจากการส่งเสริมการเกษตรที่ราบสูง บริเวณนั้นก็จะมีชาวม้งเอาสตอเบอรรี่มาขาย ซึ่งเป็นพันธุ์พระราชทาน พันธุ์ 80 หวานกรอบอร่อย เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ราคาก็ไม่แพงมากคะ
ไม่ไกลจาก บริเวณที่มีพญาเสือโคร่งเยอะ ๆ ก็จะเป็นหมู่บ้านม้งคะ เราสามารถเยี่ยมชมได้ ซึ่งภายในหมู่บ้านก็จะมีบริการให้เช่าชุดม้งถ่ายรูปเพียง ชุดละ 50 บาทเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้เช่า ฮ่า ๆ
ในหมู่บ้านก็ถือความเจริญเข้ามาพอสมควร มีน้ำไฟ รวมไปถึงเคเบิ้ลทีวี อากาศบนนี้ก็ดีคะ ไม่ร้อนไม่หนาวมาก เพราะเราไปช่วงบ่ายแก่ๆแล้ว บางบ้านก็มีการตากกาแฟที่เพิ่งเก็บใหม่ๆการขึ้นมาบนนี้ก็เหมือนการได้มาสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเขาในประเทศของเราคะ ซึ่งใครที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ขุนช่างเคี่ยนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการเดินทางคะ
สำหรับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเส้นทางพระธาตุดอยสุเทพ- พระตำหนักภูพิงค์ – ขุนช่างเคี่ยน ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ หวังว่าการแนะนำในครั้งนี้จะเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน เชียงใหม่ นะค๊า ขอให้ทุกท่านสนุกกับการท่องเที่ยวในเชียงใหม่และในประเทศไทยนะคะ เที่ยวไทยไม่ไปไม่รู้ค่ะ 🙂
พิกัดสำหรับเครื่องนำทาง : 18.817668, 98.891901