28.1 C
Bangkok
วันจันทร์, พฤศจิกายน 18, 2024
หน้าแรกสุขภาพและความงามฉี่บ่อย ปัญญาใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

ฉี่บ่อย ปัญญาใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

การปัสสาวะบ่อย (Frequency urination) คืออาการที่ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่จะปัสสาวะเฉลี่ย 6-8 ครั้งต่อวัน แต่หากปัสสาวะบ่อยกว่า 8 ครั้งขึ้นไปต่อวัน หรือปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน อาจเรียกว่าอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ (Urinary frequency)

อาการฉี่บ่อยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • ดื่มน้ำมากเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยปกติแล้ว ร่างกายต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน แต่หากดื่มน้ำมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นได้
  • ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive bladder, OAB) เป็นความผิดปกติที่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยและรุนแรงกว่าปกติ ทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยแม้กระเพาะปัสสาวะยังไม่เต็ม
  • โรคเบาหวาน โรคเบาหวานทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ส่งผลให้น้ำตาลส่วนเกินถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • โรคไต โรคไตทำให้ไตทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้ปัสสาวะออกมากผิดปกติ
  • โรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากโตกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะออกลำบาก ส่งผลให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย
  • โรคทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ทำให้ควบคุมการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะได้ยาก ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น

หากมีอาการฉี่บ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยอาจรวมถึง

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ดื่มน้ำให้พอเหมาะ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด
  • ใช้ยา เช่น ยาลดอาการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ ยาปฏิชีวนะ (หากเกิดจากการติดเชื้อ) เป็นต้น
  • การผ่าตัด (หากเกิดจากโรคร้ายแรง เช่น โรคต่อมลูกหมากโต)

วิธีป้องกันอาการฉี่บ่อย

  • ดื่มน้ำให้พอเหมาะ โดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่ต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด เครื่องดื่มเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • ควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานและโรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งอาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานและโรคต่อมลูกหมากโต
  • ดูแลสุขภาพจิต ความเครียดอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยขึ้น ดังนั้นจึงควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การนวด การฟังเพลง การอ่านหนังสือ เป็นต้น

บทความ ข่าวสาร มาใหม่

ททท. ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวลาวบนรถไฟทดลองเต็มรูปแบบจากเวียงจันทน์สู่กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ 14 กรกฎาคม 2567 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย...

พรีวิว: โคปา อเมริกา 2024 จัดที่สหรัฐอเมริกา

โคปา อเมริกา 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปอเมริกาใต้ครั้งที่ 48 แต่จะจัดขึ้นที่สหรัฐ...

ตลาดนัดแม่สาย: การค้าชายแดนไทย-พม่า

ตลาดนัดแม่สายตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างประเทศไ...

วิธีการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ความสำคัญของการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีความสำคัญอย่า...

ประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มสมรรถภาพทางกายอย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังก...