การปัสสาวะบ่อย (Frequency urination) คืออาการที่ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่จะปัสสาวะเฉลี่ย 6-8 ครั้งต่อวัน แต่หากปัสสาวะบ่อยกว่า 8 ครั้งขึ้นไปต่อวัน หรือปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน อาจเรียกว่าอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ (Urinary frequency)
อาการฉี่บ่อยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
- ดื่มน้ำมากเกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยปกติแล้ว ร่างกายต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน แต่หากดื่มน้ำมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นได้
- ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive bladder, OAB) เป็นความผิดปกติที่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยและรุนแรงกว่าปกติ ทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยแม้กระเพาะปัสสาวะยังไม่เต็ม
- โรคเบาหวาน โรคเบาหวานทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ส่งผลให้น้ำตาลส่วนเกินถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น
- โรคไต โรคไตทำให้ไตทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้ปัสสาวะออกมากผิดปกติ
- โรคต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากโตกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะออกลำบาก ส่งผลให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่งผลให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย
- โรคทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ทำให้ควบคุมการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะได้ยาก ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น
หากมีอาการฉี่บ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยอาจรวมถึง
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ดื่มน้ำให้พอเหมาะ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด
- ใช้ยา เช่น ยาลดอาการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ ยาปฏิชีวนะ (หากเกิดจากการติดเชื้อ) เป็นต้น
- การผ่าตัด (หากเกิดจากโรคร้ายแรง เช่น โรคต่อมลูกหมากโต)
วิธีป้องกันอาการฉี่บ่อย
- ดื่มน้ำให้พอเหมาะ โดยปกติแล้ว ผู้ใหญ่ต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด เครื่องดื่มเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานและโรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งอาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานและโรคต่อมลูกหมากโต
- ดูแลสุขภาพจิต ความเครียดอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยขึ้น ดังนั้นจึงควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การนวด การฟังเพลง การอ่านหนังสือ เป็นต้น