Passive income คือ รายได้ที่เราได้รับโดยไม่ต้องทำงานเพื่อแลกเงิน แต่สามารถได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดสิ่งหนึ่ง เช่น การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า การลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุน พันธบัตร ฯลฯ
Passive income ตรงกันข้ามกับ active income ซึ่งเป็นรายได้ที่เราได้รับจากการที่เราทำงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง เป็นต้น
Passive income มีข้อดีหลายประการ เช่น
- ทำให้เราไม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน
- ทำให้เรามีความอิสระมากขึ้น
- ทำให้เราสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้
อย่างไรก็ตาม Passive income ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง เช่น
- ความเสี่ยงจากการลงทุน เช่น ความเสี่ยงจากตลาดหุ้น ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
- ความเสี่ยงจากทรัพย์สิน เช่น ความเสี่ยงจากการชำรุดเสียหายของทรัพย์สิน
การสร้าง passive income มีหลายวิธี เช่น
- การลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุน พันธบัตร เป็นต้น
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า
- การสร้างธุรกิจที่สร้างรายได้แบบ passive เช่น ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ธุรกิจขายลิขสิทธิ์ เป็นต้น
การสร้าง passive income จำเป็นต้องใช้เวลาและความรู้ความเข้าใจ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
ตัวอย่างของ passive income
- รายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์
- รายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก
- รายได้จากเงินปันผลจากการลงทุน
- รายได้จากค่าลิขสิทธิ์
- รายได้จากธุรกิจขายสินค้าออนไลน์
- รายได้จากธุรกิจขายลิขสิทธิ์
ข้อควรระวังในการสร้าง passive income
- ไม่ควรคาดหวังว่า passive income จะช่วยเลี้ยงชีพได้เพียงอย่างเดียว ควรมี active income ควบคู่ไปด้วย
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
- ควรกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
- ควรมีวินัยในการเก็บออมเงินเพื่อลงทุน
การสร้าง passive income เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้ที่ช่วยให้เรามีอิสระมากขึ้นและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน