“หลวงพ่อองค์ดำลือเลื่อง เมืองฟ้าแดดสงยาง โปงลางเลิศล้ำ วัฒนธรรมผู้ไท ผ้าไหมแพรวา ผาเสวยภูพาน มหาธารลำปาว ไดโนเสาร์สัตว์โลกล้านปี”
จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งในด้านอารายธรรม ประเพณี อีกทั้งยังเป็นแหล่งขุดพบซากไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แต่หลายๆคนมักมองข้าม หันไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงแทน ใครที่คิดเช่นนี้ อยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ เพราะ จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ทุกคนไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ก็มีให้เลือกอยู่เต็มไปหมด หลายคนคงไม่เชื่อ วันนี้ ผู้เขียนจึงขอรวบรวมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทราบกัน เผื่อใครที่สนใจจะไปเยือนกาฬสินธุ์ในช่วงวันหยุด บอกเลยว่าหากไปตามลายแทงที่ได้ให้ไว้ กาฬสินธุ์ จะเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่จะทำให้คุณหลงใหลได้ไม่ลืมเลือน
จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดที่ทุกคนสามารถเดินทางไปเที่ยวเองได้ เนื่องจากการคมนาคมค่อนข้างสะดวกสบาย มีเส้นทางการเดินทางให้เลือกหลายเส้นทาง ตามแต่นักท่องเที่ยวจะสะดวก หากพร้อมแล้วก็อย่ารอช้า เตรียมไปเยือนกันได้เลย
สำหรับการเดินทางไป จังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างที่เราได้บอกไปว่าสามารถใช้ได้หลายเส้นทางและเพื่อความสะดวก
การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) กรุงเทพฯ – สระบุรี – นครราชสีมา ขับไปจนถึง จ.ขอนแก่น และต่อด้วยการใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านทางจ.มหาสารคาม ขับไปจนถึงจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมระยะทางประมาณ 519 กิโลเมตร
2. เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง
มีบริการบริษัท ขนส่ง จำกัด เดินทางจากกรุงเทพฯ – กาฬสินธุ์ สามารถใช้บริการได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน รถออกวันละ 2 เที่ยว ใครที่จะเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 1490 ได้เลย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เอาล่ะ…เมื่อทราบเส้นทางการเดินทางกันไปแล้ว ต่อไปก็มาดูกันดีกว่าว่าจังหวัดกาฬสินธุ์ มีที่เที่ยวเด็ดๆอะไรซ่อนอยู่บ้าง
1. อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร
ผู้เป็นเจ้าเมืองกาฬสินธุ์คนแรก ถูกสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ร่วมกันสละทรัพย์สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น เพื่อแสดงความเคารพและยกย่องต่อผู้ให้กำเนิดเมืองกาฬสินธุ์ เป็นอีกสถานที่หนึ่งสำหรับผู้ที่เดินทางไปเยือน ต้องมาเคารพสักการระเป็นอันดับแรก เปรียบเสมือนเมื่อไปเยือนบ้านใคร ก็ต้องมาพบเจ้าของบ้านเสียก่อน เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกาฬสินธุ์มาช้านาน
2. พิพิธภัณฑ์สิรินธร
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่และดีที่สุดในอาเซียน ภายในห้องนิทรรศการเต็มไปด้วยการนำเสนอเรื่องราวของไดโนเสาร์ที่แสนสนุก ครบรส ผ่านเทคโนโลยีการนำเสนอสุดไฮเทค อีกทั้งยังมีซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ทั้งตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก ครอบครัวใดที่มีเด็กๆไปเที่ยวด้วย คงจะถูกใจน้องๆกันไม่น้อย เพราะเป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของไดโนเสาร์แต่ละชนิดที่ละเอียดที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
3. น้ำตกผานางคอย
เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และหน้าผาสูง น้ำจะไหลผ่านลงมาเป็นชั้นๆเป็นภาพที่งดงามมาก อีกทั้งน้ำยังใสสะอาด ไม่เชี่ยวกราด ใครที่ไปเยือนสามารถลงเล่นได้เลย ส่วนตรงยอดหน้าผาเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ ผาเจริญธรรม เมื่อมาเที่ยวที่นี้แล้ว ก็อย่าลืมแวะไปทำบุญเสริมความเป็นสิริมงคลกันด้วย นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการไปพักผ่อนนั่งเล่นกับครอบครัว ใครที่ชอบท่องเที่ยวน้ำตก ต้องไม่พลาดสถานที่แห่งนี้เลย
4. พระธาตุยาคู
ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวาราวดี ถัดออกไปเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ชาวบ้านนิยมมากราบไหว้สักการบูชา ใครที่จะไปเยือน แนะนำให้เดินทางในช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะชาวกาฬสินธุ์จะจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ เพื่อขอฝนและเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
5. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทยโคกโก่ง
เป็นหมู่บ้านด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวผู้ไท เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่บอกเลยว่าห้ามพลาด เนื่องจากเสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ที่การอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งการแต่งกาย ภาษา งานพื้นบ้าน ดนตรี ที่พักอาศัย ผู้ที่สนใจ สามารถเดินทางไปเยือนกันได้ เพราะที่นี้มีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวให้ได้มาพักผ่อนและสัมผัสกับวิถีชาวบ้านที่ปัจจุบันนี้เริ่มหาชมได้ยากยิ่ง อีกทั้งยังมีหัตกรรมพื้นบ้านที่หาซื้อได้แค่ในหมู่บ้านแห่งนี้เท่านั้น
6. วนอุทยานภูแฝก
ตั้งอยู่ในเขตเขาสงวนแห่งชาติดงห้วยฝา ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่พบรอยเท้าและกระดูกไดโนเสาร์มากที่สุดในเมืองไทย โดยเฉพาะในชั้นหิน นอกจากนี้ ยังพบรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์อยู่เป็นจำนวนมาก บางชนิดก็ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ อีกทั้ง ยังมีบ่อน้ำแร่ที่ไหลตลอดทั้งปีและมีกิจกรรมอย่างการเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของวนอุทยานแห่งนี้กันด้วย
7. พุทธสถานภูสิงห์
เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปนานว่า “พระพรหมภูมิปาโล” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวกาฬสินธุ์ เป็นพระพุทธรูปที่ได้ชื่อว่างดงามมากที่สุดองค์หนึ่งของไทย เพราะเมื่อมองดูแล้วพระพุทธรูปองค์นี้มีพระพักตร์อิ่มเอิบ เปี่ยมล้นด้วยความเมตา ทำให้ผู้ที่มากราบไหว้พลอยรู้สึกสบายใจไปด้วย และบรรยากาศบริเวณโดยรอบก็มีความสงบร่มเย็น ทิวทัศน์งดงาม โดยทุกๆช่วงออกพรรษา ประชาชนชาวกาฬสินธุ์จะมาร่วมตัวกันตักบาตรเทโวเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต