ฝุ่น PM 2.5 หรือชื่อเต็มคือ Particulate Matter with diameter of less than 2.5 micron เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เทียบได้ว่ามีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ เล็กจนขนจมูกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถกรองได้ จึงแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และเข้าสู่อวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ ตัวฝุ่นเป็นพาหะนำสารอื่นเข้ามาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งอื่นๆ
ฝุ่น PM 2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเข้าสู่ร่างกายและไปสะสมในปอด ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบประสาท ผู้ที่สูดดมฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำอาจมีอาการต่างๆ ดังนี้
- ระคายเคืองตา จมูก และลำคอ
- ไอ จาม หายใจลำบาก
- ปวดหัว เวียนศีรษะ
- เหนื่อยล้า
- โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- โรคมะเร็ง
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ฝุ่น PM 2.5 อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น จึงควรป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 ดังนี้
- หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง เช่น บริเวณที่มีการก่อสร้าง บริเวณที่มีมลพิษทางอากาศ เช่น บริเวณโรงงานอุตสาหกรรม บริเวณที่มีไฟป่า เป็นต้น
- สวมหน้ากากอนามัย ที่ได้มาตรฐานป้องกันฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐาน N95 หรือ P100 เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้มีประสิทธิภาพ
- ปิดประตูหน้าต่างให้แน่น เมื่ออยู่ในอาคารเพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอกเข้ามา
- ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ต้นไม้สามารถช่วยกรองฝุ่นละอองได้
- ทำความสะอาดบ้านเรือนเป็นประจำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในบ้าน
- ดูแลสุขภาพของตนเอง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น
- ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และหันมาใช้รถสาธารณะหรือเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ แทน เช่น เดิน จักรยาน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาขยะ การเผาป่าไม้ เป็นต้น
- ดูแลรักษาเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ของรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี เพื่อลดการปล่อยไอเสียที่เป็นสาเหตุของฝุ่นละออง
การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม