กองทุนรวมผสมเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ลงทุนในทั้งหุ้นและตราสารหนี้ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สมดุล
ประเภทของกองทุนรวมผสม
กองทุนรวมผสมมีหลากหลายประเภท แบ่งตามสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ดังนี้
- กองทุนรวมผสมแบบ Balanced Fund: ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในสัดส่วนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน เช่น หุ้น 35% และตราสารหนี้ 65%
- กองทุนรวมผสมแบบ Flexible Fund: ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผลตอบแทนของกองทุนรวมผสม
ผลตอบแทนของกองทุนรวมผสมขึ้นอยู่กับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ หากสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสูง ผลตอบแทนของกองทุนรวมผสมก็จะสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของกองทุนรวมผสมก็ยังมีความเสี่ยงที่จะลดลงได้ หากสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสูงเกินไป
ความเสี่ยงของกองทุนรวมผสม
ความเสี่ยงของกองทุนรวมผสมอยู่ระหว่างกองทุนรวมหุ้นและกองทุนรวมตราสารหนี้ ความเสี่ยงหลักของกองทุนรวมผสม ได้แก่
- ความเสี่ยงด้านราคา: ความเสี่ยงที่ราคาของหุ้นและตราสารหนี้ที่กองทุนรวมลงทุนจะลดลง
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง: ความเสี่ยงที่นักลงทุนไม่สามารถขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมได้ทันทีที่ต้องการ
- ความเสี่ยงด้านเครดิต: ความเสี่ยงที่บริษัทจดทะเบียนหรือ issuer ของตราสารหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ข้อดีของกองทุนรวมผสม
- ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สมดุล: กองทุนรวมผสมมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ แต่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ากองทุนรวมหุ้น
- บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ: กองทุนรวมผสมมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการ
ข้อควรระวังในการเลือกกองทุนรวมผสม
- พิจารณาวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้: กองทุนรวมผสมแต่ละกองมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ควรเลือกกองทุนรวมที่มีระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตนเอง
- ศึกษานโยบายการลงทุนของกองทุนรวม: ควรศึกษานโยบายการลงทุนของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน
- เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนรวม: ควรเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอย่างน้อย 3 ปี
สรุป
กองทุนรวมผสมเป็นเครื่องมือลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สมดุล โดยนักลงทุนควรพิจารณาวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน